หลังจากความนิยมใน Cryptocurrency, NFT และ Metaverse คำศัพท์ใหม่ต่อมาที่เข้ามาครอบครองโลกอินเทอร์เน็ตนั่นก็คือ Web 3.0 หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Decentralized Website ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 ของอินเทอร์เน็ตโดยเป็นการปรับปรุงให้เหนือ Web 2.0 ในปัจจุบัน หากใครกำลังสงสัยว่าก่อนจะวิวัฒนาการมาเป็น Web 3.0 นั้นผ่านอะไรมาบ้าง เราจะพาคุณไปย้อนประวัติในอดีตกัน Web 1.0 เกิดขึ้นในช่วงแรก ๆ ของอินเทอร์เน็ตโดยเริ่มระหว่างปี 1990 ถึง 2000 ที่สร้างขึ้นจาก Tim Berners-Lee วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษผู้คิดค้น World Wide Web ที่มีองค์ประกอบรากฐาน 3 ส่วนได้แก่ HTML, URL และ HTTP โดย Web 1.0 จะทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารในรูปแบบสื่อสารทางเดียว (One Way Communication) ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาและเป็นเจ้าของเว็บเพื่อกำหนดส่วนของเนื้อหาให้แก่ผู้เข้าชมได้ Web 2.0 เป็นการพัฒนาให้สามารถทำได้ทั้งอ่าน และเขียนเพื่อโต้ตอบกันได้อย่างอิสระเป็นแบบสื่อสารสองทาง (Two Way Communication) ก่อให้เกิดเป็นสังคมออนไลน์ (Social Network) แต่เนื่องด้วยมีข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาสู่อินเทอร์เน็ต เป็นเหตุให้จำเป็นต้องมีตัวกลางอย่าง Facebook (Meta), Google (NASDAQ:GOOGL) เข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลางคอยดูแลจัดการข้อมูลทั้งหมด และเชื่อมต่อผู้คนต่าง ๆ เข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้อมูลและเนื้อหาเหล่านี้ส่วนใหญ่ควบคุมโดยกลุ่มยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกลุ่มเล็ก ๆ เช่น Amazon, Apple (NASDAQ:AAPL), Meta, Microsoft และ Google ในระยะ Web 2.0 ปัจจุบัน นี่เป็นการสร้างปัญหาความเป็นส่วนตัวและผู้ใช้อาจคิดว่าพวกเขาสูญเสียเสรีภาพในข้อมูลส่วนบุคคล ธุรกิจหรือข้อมูลทางการเงิน เนื่องจากต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดเพื่อใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่บริษัทเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยการขายข้อมูลหรือใช้เพื่อการโฆษณาได้ ทำให้แนวคิด Web 3.0 นั้นได้ก่อกำเนิดขึ้นมา โดย Web 3.0 ได้รับการคาดหมายว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ เนื่องจากคาดว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตเวอร์ชันไร้ศูนย์กลางหรือกระจายอำนาจให้กับผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีความโปร่งใสและมีเนื้อหาที่ใหญ่มากยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกคนให้สามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้เชื่อว่า
กดอ่านข่าว Web 3.0 คืออะไร จะปฏิวัติอินเทอร์เน็ตในอนาคตอย่างไร ต่อที่ Siam Blockchain