ในวันที่ 14 ธันวาคม คุณมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer แห่งบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เผยผ่าน THE STANDARD WEALTH ระบุว่าล่าสุดทาง SCB 10X เตรียมตั้งสำนักงานใหญ่บน Sandbox แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการออกแบบอาคารสำนักงานที่คาดว่าน่าจะสร้างเสร็จได้ภายในปีหน้า ซึ่งขั้นตอนการวางแผนของทางองค์กร จะมีความคล้ายคลึงกับการทำโปรเจกต์ก่อสร้างอาคารจริง ที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การจัดหาที่ดินที่เหมาะสม จากนั้นจึงทำการคุยกับทางสถาปนิก และ วิศวกร เพื่อดำเนินการสร้าง และ ตกแต่งต่อไปได้ ทั้งนี้การสร้างสิ่งปลูกสร้างบนโลกเสมือนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยเหมือนกับโครงการก่อสร้างอาคารทั่วไป จึงทำให้สามารถจินตนาการได้กว้างมากขึ้น โดยคุณมุขยาเผยถึงไอเดียในการออกแบบเบื้องต้นว่า
“คอนเซปต์เบื้องต้นเราก็อยากให้มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอยู่ เป็นศูนย์รวมของ Thai Community ใน The Sandbox”
ในด้านของงบประมาณในการสร้าง Headquater บน Sandbox ของบริษัทนั้นทางบริษัทยังไม่สามารถประเมิณค่าออกมาได้ เนื่องจากโปรเจกต์นี้จำเป็นที่จะต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกราฟิกดีไซเนอร์ แต่เบื้องต้นทางบริษัทได้ดำเนินการเช่าที่ดินบนโลกเสมือนจริง และ เริ่มว่าจ้าง Outsource นักออกแบบไทยบางรายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
SCB 10X เตรียมตั้งสำนักงานใหญ่บน Sandbox พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร
ทางด้านคุณมุขยาได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการให้บริการในด้านต่าง ๆ ของสำนักงานใหญ่บน Sandbox ไม่ว่าจะเป็น การจัดอีเวนต์ด้าน DeFi ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Avatar ของตนเองขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมภายในงานได้ หรือ การจัดงานแถลงข่าว หรือ การเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามาพบปะกับเหล่าซีอีโอขององค์กรในโลกเสมือนจริงได้ ซึ่งล่าสุดทางบริษัทได้ทำการปล่อยตัว Avatar ของเหล่าผู้บริหารออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ทางองค์กรได้เผยถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสาขาธนาคารบนโลกเสมือนเพื่อมอบบริการการทำธุรกรรม เช่น Asset Management หรือ การรับฝากเงินเพื่อแลกกับผลตอบแทนรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งบริษัทในเครือ SCB รายอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาใช้บริการในสำนักงานใหญ่ของ SCB 10X ได้เช่นเดียวกัน
แต่ทว่าไฮไลท์สำคัญที่ทางบริษัทตั้งใจจะทำบน Sandbox คงจะหนีไม่พ้นการเปิดแกลเลอรี่แสดงผลงาน NFT ให้กับศิลปิน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพ และ ความสามารถของชาวไทยอีกด้วย
SCB 10X เล็งเห็นโอกาสเติบโตบน Metaverse
คุณมุขยาได้ออกมายอมรับกับทางสำนักข่าวว่าโลก Metaverse ที่ใช้เทคโนโลยี Web 3.0 นั้นจะสามารถเติบโตได้อีกมาก จะเห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ล่าสุดที่ศิลปินชื่อดังอย่าง Snoop Dogg ที่เข้ามาถือครองที่ดินบน Sandbox แล้วเป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึงในเร็ว ๆ นี้อาจมีความเป็นไปได้ที่ศิลปินต่าง ๆ จะดำเนินการการจัดแสดงคอนเสิร์ตบน Metaverse ซึ่งจะสามารถดึงดูดผู้คนเข้ามาได้อีกมากเลยทีเดียว
ในอนาคต SCB 10X ได้เตรียมแผนขยายธุรกิจเข้าไปลงทนบนแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดทางบริษัทได้รับเงินเพิ่มเติมจาก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปลงทุนกับ Blockchain และ DeFi ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก