เมื่อไม่นานมานี้นักเปิดโปงความลับชื่อดังของรัฐบาลสหรัฐฯ Edward Snowden ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่น่าสนใจของเขาว่า Bitcoin ได้มีส่วนช่วยทำให้เขาค้นพบการสอดแนมที่ไม่เหมาะสมของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้ง National Security Agency และ CIA ในปี 2013 Snowden เพิ่งตัวรู้ภายหลังว่า ในตอนนั้นเขาได้ใช้ Bitcoin เพื่อเงินจ่ายค่าเช่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหลของ NSA Snowden ได้ตอบสนองต่อข้อกังวลของผู้สนับสนุน Bitcoin ที่บางคนอาจรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของสกุลเงินดิจิทัลและอารมณ์เสียบางครั้งที่เขาทำตัวต่อต้าน Bitcoin อย่างไรก็ตามปัจจุบันเขาได้แสดงจุดยืนให้เห็นแล้วว่า เขานั้นอยู่ฝั่งเดียวกับ Bitcoin และยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อเตือนสติให้ทุกคนรู้ว่า CBDC นั่นไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัล “มีกลุ่ม VC ที่ร่ำรวยกลุ่มหนึ่งพยายามเสแสร้งทำเป็นช่วยเหลือคุณโดย “เตือน” คุณให้อยู่ห่างจาก Bitcoin และพยายามหลอกล่อให้คุณสนใจในเหรียญขยะแบบรวมศูนย์ที่พวกเขาบังเอิญเป็นเจ้าของหุ้นมหาศาล” Snowden เป็นนักวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)ซึ่งเขาเห็นด้วยกับหลาย ๆ ฝ่ายที่มองว่า กลไกของรัฐบาลนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดการใช้ cryptocurrency และจำกัดเสรีภาพทางการเงิน อย่างไรก็ตามการวิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin อย่างตรงไปตรงมาและตรงไปตรงมาของเขาในประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัว เช่น การอัปเกรด Taproot เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขามองว่ามันทำให้ความเป็นส่วนตัวของคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) นั้นแย่ลงไปอีก จากข้อมูลของ Snowden เขาชี้ให้เห็นว่า เหรียญ privacy coins ที่ใช้เป็นทางเลือกแทน Bitcoin นั้นมีแรงฉุดไม่ดี ซึ่งเห็นได้จากการที่เหรียญ privacy coins ส่วนใหญ่ถูกเพิกถอนออกจากกระดานแลกเปลี่ยน แต่เนื่องจากกระดานแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ไม่สามารถเพิกถอน Bitcoin ออกไปได้ ดังนั้นมันจึงจะเป็นการดีกว่า หากนักพัฒนาให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของ Bitcoin
กดอ่านข่าว Edward Snowden กล่าวว่า Bitcoin มีช่วยให้เขาสามารถเปิดโปงรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สำเร็จในปี 2013 ต่อที่ Siam Blockchain