จากการวิจัยของ CR2 ได้มีการระบุว่า ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีการเงินหรือ fintech ในทวีปแอฟริกานั้น ทางสถาบันการเงินที่มีอยู่แต่เดิมเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติเทคโนโลยีการเงินมากขึ้นหากสถาบันเริ่มเห็นว่า สินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
รายงานวิจัยกับทิศทางอนาคตของดิจิทัล
โดยในรายงานได้มีการเรียกร้องให้ทางสถาบันการเงินหลายแห่งให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพื้นที่เทคโนโลยีทางการเงิน และร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีการเงินสาย startup และบริษัททางด้านเทคโนโลยี โดยที่จะต้องมีการให้ความร่วมมือผลักดันเรื่องนี้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายของลูกค้าและให้คำนิยามในการดำเนินกิจการตามกรอบสิ่งแวดล้อม
การทำแบบนี้คาดว่า จะทำให้สถาบันการเงินมีส่วนแบ่งในตลาดดิจิทัลในทวีปแอฟริกามากขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสร้างความร่วมมือกันระหว่างธนาคารกับบริษัททางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน จากรายงานของ CR2 นั้น ได้มีการพูดถึงเรื่องราวของ GTB ธนาคารของประเทศไนจีเรียที่ประสบปัญหาทางด้านการสูญเสียลูกค้าจำนวนมากหลังจากที่แพลตฟอร์มมือถือของธนาคารเข้าสู่ภาวะออฟไลน์
ทำให้ทางด้าน GTB ต้องแก้เกมด้วยการจับมือกับทาง Kuabank บริษัททางด้านเทคโนโลยีการเงินที่เพิ่งเกิดใหม่ ซึ่งต่อมายอดลูกค้าจากตอนแรกที่มีอยู่ 300,000 ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 1,400,000 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี
รายงานชี้ สถาบันยักษ์ใหญ่ต้องร่วมมือกับบริษัทหน้าใหม่
อย่างไรก็ตาม ในรายงานได้มีการอธิบายว่า สถาบันการเงินที่มีอยู่แต่เดิมนั้น สามารถเข้าไปจับมือร่วมทุนกับบริษัทเทคโนโลยีการเงินสาย startup ได้หากพวกเขาตัดสินใจที่จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงิน และการทำแบบนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น สอดคล้องกับงานวิจัยของทาง Mckinsey Conslting ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาในประเทศไนจีเรีย
โดย CR2 ได้รายงานสรุปว่า มีความจำเป็นที่ทางสถาบันการเงินเก่าแก่ต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างมูลค่าให้เติบโตมากขึ้นด้วยการเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดการเงินดิจิทัล เนื่องจากในระยะยาวนั้น สถาบันการเงินจะต้องตอบสนองต่อบริการทางด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดจนต้องร่วมมือกับหุ้นส่วนแพลตฟอร์มธนาคารทางด้านดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้