💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

เผยเหตุผลว่าทำไม ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ จึงต้องเลือกอยู่คนละฝั่งกับ Crypto ?

เผยแพร่ 01/10/2564 15:23
อัพเดท 01/10/2564 15:40
เผยเหตุผลว่าทำไม ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ จึงต้องเลือกอยู่คนละฝั่งกับ Crypto ?
SETI
-

ในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา นาง Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวด้วยความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า ในที่สุดการเสนอร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์จะผ่านพ้นไปในสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะเป็นวันที่ 30 กันยายน ในขณะเดียวกันนาง Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบันและอดีตประธาน Fed ได้แนะนำให้กลุ่มวุฒิสมาชิก Warner-Portman-Sinema รวมกฎระเบียบด้านคริปโตไว้ในข้อเสนอร่างกฎหมาย เพื่อเพิ่มอำนาจการกำกับดูแลเหนือ DeFi และครอบคลุมทุกฟันเฟืองในพื้นที่ บล็อกเชน รวมถึงคำจำกัดความต่าง ๆ นับตั้งแต่นักพัฒนากระเป๋าเงิน นักขุด และกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ ในทางกลับกัน ก.ล.ต. สหรัฐฯ จะมีอำนาจสูงสูดในการปฏิบัติต่อพวกเขาเหล่านี้ โดยกำหนดให้พวกเขาต้องลงทะเบียนเพื่อการกำกับดูแลและวัตถุประสงค์ในด้านการจัดเก็บภาษี พอได้ยินข่าวนี้นักพัฒนาหลายคนถึงกับรู้สึกเป็นกังวล แม้ว่าจะมีความพยายามนำเสนอแก้ไขร่างกฎหมายโดย Wyden-Lummis-Toomey แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว เนื่องจากการเข้าแทรกแซงของ Sen. Richard Shelby อย่างน่าประหลาดใจ จุดยืนของ Gensler ที่มีต่อคริปโต นับตั้งแต่กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานได้รับการนำเสนอ นาย Gary Gensler ประธานก.ล.ต.ก็ได้กล่าวหลายต่อหลายครั้งว่าพื้นที่บล็อคเชน (จากโปรโตคอล DeFi ไปจนถึง Bitcoin) จำเป็นต้องยอมรับในด้านกฎระเบียบ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กันยายน Gensler ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในงานประชุม Code Conference ณ เมือง Beverly Hills ว่า “มีสถานที่ซื้อขายและให้กู้ยืมรวมตัวกันอยู่มากมายรอบ ๆ สิ่งเหล่านี้ และพวกมันไม่ได้มีแค่หลายสิบ แต่มีหลายร้อย และบางครั้งมีหลายพันโทเค็น” “และสิ่งนี้จะไม่จบลงได้ด้วยดี หากอยู่นอกขอบเขตพื้นที่การกำกับดูแล” กล่าวอีกนัยหนึ่ง Cryptocurrency จำเป็นต้องมีการแยกแยะความแตกต่างระหว่างโทเค็นที่เป็นประเภทของหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ ภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการคิดค้นโครงสร้างทางกฎหมายที่เรียกว่าแบบทดสอบ Howey Test เพื่อพิจารณาว่าสินทรัพย์ประเภทใดบ้างที่อาจเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งข้อควรพิจารณาที่สำคัญมีดังต่อไปนี้ : เป็นสินทรัพย์ที่ต้องลงทุนด้วยเงิน มีความคาดหวังจากผลกำไรที่ขึ้นอยู่กับความพยายามของบุคคลที่สาม เป็นกิจการทั่วไปที่เข้าข่ายในลักษณะของบริษัท ตามเกณฑ์เหล่านี้ แม้แต่เหรียญ Stable coin ก็สามารถผ่านการทดสอบของการถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์ได้ โดยสมาชิกสภา Sen. Pat

กดอ่านข่าว เผยเหตุผลว่าทำไม ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ จึงต้องเลือกอยู่คนละฝั่งกับ Crypto ? ต่อที่ Siam Blockchain

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย