แม้ราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นจากระดับ $44,000 ไปเป็น $50,000 ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ แต่ในแง่ของการทำธุรกรรมบนเครือข่ายนั้น ยังคงได้เห็นการร่วงลดลงของอัตราการทำธุรกรรมอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การประมวลผลธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin มีมูลค่าร่วงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ “ปริมาณธุรกรรมรายวันก็ลดลงเช่นเดียวกัน โดยเครือข่าย Bitcoin มีปริมาณธุรกรรมรายวันอยู่ที่ระดับ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์” ตัวเลขข้างต้นนั้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจุดสูงสุดตลอดกาลสำหรับอัตราการทำธุรกรรมบนเครือข่าย BTC ในเดือนพฤษภาคม ยิ่งไปกว่านั้นรายงานจากผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล Glassnode ยังชี้ให้เห็นถึง “การเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน” สำหรับเหรียญ Bitcoin ที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวในกระเป๋าเงินมาเป็นเวลาอย่างน้อย 5 เดือนในสัปดาห์นี้ นั้นบ่งชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนสาย HODL บางส่วนเริ่มเทขายเหรียญเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋าของพวกเขาแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้การเคลื่อนไหวของเหรียญที่อยู่มานานจะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวน Bitcoin ในกระเป๋าเงินของนักลงทุนระยะยาวเหล่านี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 12.7 ล้าน BTC หรือคิดเป็น 67% ของอุปทานเหรียญทั้งหมด เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ราคาได้ร่วงแตะจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน เป็นที่สังเกตว่า นักลงทุนระยะยาวได้ใช้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 เพื่อเทขายเหรียญทำกำไรเข้ากระเป๋า แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ขายเหรียญทั้งหมดที่มี ดังนั้นเมื่อปริมาณการธุรกรรมมีจำนวนที่ลดน้อยลง เหรียญที่ถูกซื้อในเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ก็จะถูกเพิ่มเข้าไปในอุปทานระยะยาว
กดอ่านข่าว รายงานพบการทำธุรกรรม Bitcoin ร่วงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ราคาจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ต่อที่ Siam Blockchain