ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของตลาดคริปโต หลังจากราคา Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ $64,800 ได้ไม่นาน ราคาก็กลับตัวเป็นขาลงอย่างรวดเร็วกินระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว สาเหตุหลักมาจากอุบัติเหตุเหมืองถ่านหินในจีนที่เป็นชนวนในการถูกสั่งระงับและตัดกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งหมดในภูมิภาคเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย ตามที่ทาง Siam Blockchain ได้รายงานไปเมื่อวันก่อน ส่งผลให้อัตราการขุด Bitcoin ทั่วโลกลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแม้ว่าเหมืองขุด Bitcoin ในจีนจะไม่ได้มีปัญหาหรือความกังวลเรื่องความปลอดภัยใดใดก็ตาม แต่ทว่าการถูกระงับและตัดกระแสไฟฟ้าจากเหมืองถ่านหินดังกล่าวก็ส่งผลกระทบมายังเหมืองและนักขุด Bitcoin เช่นกัน จากกราฟด้านบนแสดงถึงอัตราการขุด Bitcoin ที่ลดลงจากระดับ 170 MH/s สู่ 140 MH/s เมื่ออัตราการขุดลดลงแต่ค่า Difficulty ในการขุดยังคงที่ สิ่งนี้อาจหมายความว่านักขุดอาจเสียผลประโยชน์หรือทำการขุดแล้วไม่คุ้มกับรางวัลที่จะได้รับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่น่าจับตาว่าอัตราแรงขุดที่ลดลงนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรกับราคา Bitcoin อีกทั้งการเทขาย Bitcoin จากเหล่านักขุดนชหมายความว่าอย่างไร ติดตามกันได้ในบทความนี้ อัตราการการขุดจาก 3 ยักษ์ใหญ่ของโลกลดลงกว่า 60% นำโดย Pool ชื่อดังอย่าง AntPool จากจีนที่มีอัตราการขุดลดลงกว่า 28% ในค่ำคืนที่เกิดการตัดกระแสไฟฟ้า ตามมาด้วย BTC.com และ F2Pool สองเหมืองขุด Bitcoin ยักษ์จากจีนที่รวมกันแล้วอัตราการขุดลดลงกว่า 32% สิ่งนี้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาแต่เพียงเหล่านักขุดและ Pool เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบมาถึงผู้ใช้งานบางรายที่ทำธุรกรรมผ่านเครือข่าย Bitcoin ซึ่งมีการประมวลผลที่ล่าช้าจากอัตรา Hashrate ลดลง ความล่าช้านี้ทำให้ผู้ใช้บางรายเพิ่มค่าธรรมเนียมเพื่อเร่งอัตราการขุด ตามที่ Siam Blockchain ได้รายงานไปในเช้าวันนี้ เหล่านักขุดเทขาย Bitcoin เพื่อ Cover ความเสียหาย ประเทศจีนถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในการขุด Bitcoin ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ Hashrate ของ Bitcoin ลดลงกว่า 20% ส่งผลให้ราคา Bitcoin เริ่มร่วงลงจากจุดสูงสุดที่ระดับบ $64,800 ในวันที่ 14 เมษายน ปัจจุบันราคา Bitcoin มีระดับการซื้อขายอยู่ที่ $54,000 ลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลกว่า 16%
กดอ่านข่าว สาเหตุที่อัตราแรงขุดที่ลดลงส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในตอนนี้ ต่อที่ Siam Blockchain