Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple เรียกร้องให้ Bitcoin เปลี่ยนระบบการทำงานจาก Proof-of-Work ในบล็อกโพสต์ล่าสุด Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple กำลังเรียกร้องให้นักขุด Bitcoin, นักเทรด และนักพัฒนา พิจารณาการเปลี่ยนกลไกการทำงานแบบ Proof-of-Work ไปเป็น Proof-of-Stake “เรามาร่วมสนับสนุนให้ทีมงาน ผู้สร้าง นักขุด รวมไปถึงกระดานเทรด ออกจากระบบ POW กันเถอะ Larsen กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะ “สำคัญอย่างยิ่ง” สำหรับ Bitcoin ที่ยังคงความเป็นคริปโตเคอเรนซีที่โดดเด่น เขาเตือนว่านักลงทุนจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลให้ถอนการถือครอง เนื่องจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลของกระบวนการ PoW ในขณะเดียวกันเขากล่าวอีกว่า Ethereum ควรได้รับการ “ชมเชย” สำหรับการตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้กระบวนการ Proof-of-Stake ตามรายงานของ U.Today อดีต CEO ของ Ripple อ้างว่าจีนจะสามารถทำลาย Bitcoin ได้ในท้ายที่สุด ซึ่งคำพูดของเขาได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในชุมชนคริปโตเคอเรนซี ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Larsen เขียนในบล็อกโพสต์ของเขา นักลงทุน Bitcoin รายใหญ่โฟกัสไปที่การลบล้างคำครหาว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสาเหตุหลักในการสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมแทน Cathie Wood ผู้จัดการสินทรัพย์ของ ARK Investment และ Square บริษัทการชำระเงินดิจิทัลของ Jack Dorsey ได้ร่วมกันเปิดเผยแพร่ White Paper เกี่ยวกับ Bitcoin ว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของพลังงานหมุนเวียน ภายใน White Paper ระบุว่า Bitcoin จะสามารถเร่งการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานทั่วโลก ไปสู่พลังงานหมุนเวียน โดยการทำโครงการพลังงานทดแทนอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมให้ได้ทำกำไรมากขึ้น
กดอ่านข่าว ผู้บริหาร Ripple นาย Chris Larsen กล่าว Bitcoin ควรหันมาใช้ Proof-of-Stake ต่อที่ Siam Blockchain