จีนในสมัยโบราณมีการใช้ทองคำแท่งหรือเงินขนาดเล็กเป็นสกุลเงินในตอนนั้น โดยมีการชั่งน้ำหนักเป็น ตำลึง (taels) ซึ่งเป็นหน่วยวัดน้ำหนักในในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการกำหนดมูลค่า และในตอนนี้ bitcoin ได้ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล (all-time high) อีกครั้งเหนือระดับ 56,000 เหรียญสหรัฐและมีมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ถูกมองว่าเป็นรูปแบบ “ทองคำ 2.0” ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสิงคโปร์ ในขณะที่ทางโลกตะวันตกเริ่มมีการยอมรับของสถาบันการเงินมากขึ้น แต่ในเอเชียกลับมีมุมมองที่หลากหลายต่อคริปโต เช่น ในฮ่องกงกำลังห้ามไม่ได้มีการซื้อขายคริปโตในรายย่อย ขณะที่ในอินเดียวกำลังเสนอให้มีการห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลเพื่อเหตุผลส่วนตัว นอกจากนี้ในจีนได้มีการปราบปรามบริษัทคริปโตและออกกฎมายที่มีความเข้มงวดเพื่อควบคุมคริปโตอีกด้วย แต่สำหรับสิงคโปร์ แนวทางที่มีต่อสกุลเงินสกุลเงินดิจิทัลนั้นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การยอมรับในสถาบันกำลังดำเนินไปในตะวันตก แต่พื้นที่ขนาดใหญ่ในเอเชียได้แสดงการจองและความรู้สึกที่หลากหลายต่อคริปโตเช่น bitcoin ฮ่องกงกำลังห้ามมิให้มีการซื้อขายคริปโตแบบขายปลีกในขณะที่อินเดียกำลังเสนอให้มีการห้ามซื้อขายคริปโตเคอเรนซีส่วนตัวโดยสิ้นเชิง จีนได้ทำการปราบปราม บริษัท คริปโต (crypto) และเพิ่มความเข้มงวดทางกฎหมายมากกว่าคริปโต แต่แนวทางของสิงคโปร์ต่อสกุลเงินดิจิทัลนั้นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากเพื่อนบ้านในภูมิภาคในการพูดคุยและในการดำเนินการ Mansoor Mohi-uddin หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแห่งสิงคโปร์ ได้โต้แย้งในงานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า การที่ bitcoin จะแทนที่สกุลเงิน fiat ในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (medium of exchange) สมัยใหม่เช่นเดียวกับทองคำนั้น“ bitcoin ยังไม่มีประสิทธิภาพในเรื่อง ”การชำระเงินข้ามพรมแดน” อย่างไรก็ตาม Mohi-uddin ชี้ให้เห็นว่าบทบาทที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับ bitcoin คือการเก็บมูลค่าทางเลือก (store of value) และสามารถแข่งขันกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่หลบภัยได้ (safe-haven) แม้จะมีการเปรียบเทียบระหว่าง ทองคำ กับ“ ทอง 2.0” แต่จริงๆแล้ว bitcoin ก็ไม่ได้คล้ายกับทองคำซะทีเดียว อย่างเช่น การมีจำนวนจำกัด (scarcity) ความสามารถในการพกพา และการแบ่งแยก สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ไม่มีอยู่ในโลหะมีค่าอย่างทองคำ “ นักลงทุนทองคำสามารถเป็นนักลงทุน bitcoin ได้และนักลงทุนในหุ้นก็สามารถเป็นนักลงทุน bitcoin ได้เช่นกัน” ซึ่ง Eugene Ng หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Gemini ในเอเชียแปซิฟิกให้สัมภาษณ์กับ Forkast News ว่า “ Bitcoin ไม่ได้แข่งขันกับทองคำจริงๆ แต่เป็นการยืนหยัดด้วยตัวมันเอง” Gemini
กดอ่านข่าว Bitcoin กำลังท้าชิงบัลลังก์ทองคำในแง่ตัวเก็บมูลค่าในสิงคโปร์ ต่อที่ Siam Blockchain