แม้ Bitcoin และ Ethereum จะยังคงเป็นโปรโตคอลพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างในอุตสาหกรรมคริปโต แต่ถึงกระนั้นโปรโตคอลเลเยอร์ 1 ที่เราจะมานำเสนอในบทความนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันมีศักยภาพมากพอที่จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรมด้านบล็อกเชน Radix Radix เป็นโปรโตคอล Layer-1 ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับภาคการเงินแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) โดยเฉพาะ แพลตฟอร์ม Radix จะทำการปรับขนาดโดยไม่มีแรงเสียดทาน ด้วยการปรับขนาดเชิงเส้น (scales linearly) ที่มาพร้อมกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัลกอริทึม consensus “Tempo” ตัวล่าสุดของ Radix ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วระดับ 1.4 ล้านรายการต่อวินาที ในขณะที่กระบวนการตรวจสอบข้อมูลของ “Cerberus” สามารถปรับขนาดได้อย่างไม่จำกัด ด้วยการออกแบบ future-proof core นี้ Radix ตั้งเป้าที่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับนักพัฒนามากที่สุดในภาค Defi ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ คือ Radix Component Catalog ซึ่งเป็น Library ของโค้ดแบบ Open source ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำส่วนประกอบที่มีอยู่เดิมกลับมาใช้ใหม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบการพัฒนา dApp และช่วยลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ที่เกิดจากการแก้ไขโค้ดที่กดคัดลอกจากตัวของนักพัฒนา (Human Error) อีกด้วย นักพัฒนาสามารถเพิ่มส่วนประกอบลงใน Component Catalog และรับผลตอบแทนได้โดยตรงผ่าน Radix on-ledger Developer Royalties เมื่อผู้ใช้คนอื่นเริ่มใช้งาน ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า Radix ได้รวบรวมโร้ดแมพที่น่าเชื่อถือไว้สำหรับนักพัฒนา dApp ในรุ่นต่อไป Radix จะมอบความสามารถในการปรับขนาดและเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ จากผลของการวิจัยและการพัฒนามานานกว่า 7 ปีจะช่วยโปรโตคอลนี้ฉีกกฎโปรโตคอลแบบเดิม ๆ และนำแนวคิดใหม่มาสู่โลกยุคใหม่ Polkadot Polkadot น่าจะเป็นโปรโตคอล Layer-1 ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด นับตั้งแต่แยกตัวออกมาจาก Ethereum ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังอย่าง นาย Gavin Wood อดีต CTO ของ Ethereum และเป็นผู้เขียน Whitepaper ของ Ethereum ในปี
กดอ่านข่าว 3 เหรียญคริปโต 3 อันดับแรกที่จะมาอนาคตโปรโตคอล Layer-1 ในยุคต่อไป ต่อที่ Siam Blockchain