เมื่อวานนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับ ‘โครงการ ม.33 เรารักกัน’ สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตน “ประกันสังคมมาตรา 33” ภายหลังจากที่ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลดังต่อไปนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ผู้ประกันตน มาตรา 33 “โครงการ ม.33 เรารักกัน” รูปแบบจะเป็นเหมือนโครงการ เราชนะ นำเงินเข้าแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 33 ประมาณ 11 ล้านคน เงื่อนไขสำคัญ ผู้ที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท จะไม่ได้รับสิทธิ ประเด็นเงินเดือนต่อปี รวม 3 แสนบาท อาจมีปัญหา จึงไม่เอาเกณฑ์เงินเดือนมาพิจารณา งบประมาณ เป็นการใช้เม็ดเงินกู้ก้อนเดียวกับโครงการ เราชนะ ไม่ใช่เงินจาก ประกันสังคม โครงการแจกเงินของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อราคาของ Cryptocurrency โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Bitcoin เนื่องจากผู้คนอาจจะพากันแห่นำเงินที่ได้จากรัฐบาลไปลงทุนในสินทรัพย์คริปโตกันมากขึ้นนั่นเอง ตามข้อมูลที่ได้จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทำให้เราตั้งข้อสังเกตได้ว่า ผู้ที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทขึ้นไปนั้น พวกเขาอาจรีบโยกย้ายเงินมาถือคริปโตแทน เพื่อที่ว่าเงินในบัญชีของพวกเขาจะได้ดูไม่ถึง 5 แสนบาทและก็จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวไปด้วย ดังนั้นหมายความว่าเม็ดเงินเหล่านี้อาจจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตในไม่ช้าก็เร็ว ผลตอบแทนจากการลงทุน Bitcoin ด้วยเงินเยียวยา 15,000 บาทจากเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยในเดือนเมษายน ก่อนหน้านี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เปิดเผยว่ารัฐบาลจะทำการแจกเงินเยียวยา 5,000 บาทจนครบ 3 เดือนเป็นเงินรวมทั้งหมด 15,000 บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน ของปี 2020 โดยหากเรานำเงินที่ได้รับมา 5,000 บาทไปซื้อ Bitcoin ในเดือนเมษายน เราจะได้รับ BTC สะสมทั้งหมดอยู่ที่ 0.02603 BTC ต่อมาในเดือนพฤษภาคมหากเรานำเงิน 5,000 บาทก้อนที่ 2 ไปซื้อ Bitcoin เราจะได้รับ BTC เพิ่มอีก 0.01782 BTC จากนั้นในเดือนที่ 3 หากเรานำไปซื้อทั้งหมดไปซื้อ
กดอ่านข่าว สาเหตุที่นโยบายแจกเงินของรัฐบาลไทย อาจผลักดันให้คนมาถือ Bitcoin ต่อที่ Siam Blockchain