นาย Stephen Harper ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาเป็นเวลานาน 9 ปีกล่าวว่า Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางมีโอกาสที่จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าสกุลเงินสำรองแทนที่เงินดอลลาร์ได้ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนาย Jay Martin ผู้ให้บริการด้านการลงทุนในงาน Vancouver Resource Investment Conference นาย Harper กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่เงินดอลลาร์สหรัฐจะถูกแทนที่ โดยอาจมาจากสกุลเงินใหญ่ ๆ อย่างเช่น เงินยูโร หรือ เงินหยวนของจีน แต่เขาแสดงความสงสัยว่ามันอาจจะมีสกุลเงินทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้เนื่องจากความไม่แน่นอนในระยะยาวเกี่ยวกับค่าเงินยูโรและ “มาตรการตามอำเภอใจ” ที่รัฐบาลจีนจะดำเนินการเกี่ยวกับค่าเงินหยวน : “มันเป็นเรื่องยากที่จะมองว่าสกุลเงินทางเลือกอื่น ๆ จะสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทนเงินดอลลาร์ในการเป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญของโลกได้ โดยนอกเหนือจากทองคำแล้วก็อาจจะเป็น Bitcoin ผมคิดว่าคุณอาจจะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่ผู้คนใช้เป็นเงินสำรองมากขึ้น แต่เงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นส่วนใหญ่ในตัวเลือกเหล่านั้น” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาคิดว่าสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC นั้นเป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” ในระดับหนึ่ง แต่มีแนวโน้มที่จะอยู่ภายใต้นโยบายการเงินทั่วโลก นาย Harper กล่าวว่าเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางจะกลายมาเป็น “นายธนาคารทั่วไป” มากกว่าแค่การตรวจสอบทางการเงิน และอาจส่งผลต่อการเปิดตัว CBDC “ท้ายที่สุดแล้วหากคุณมีสกุลเงินดิจิทัล และจุดประสงค์ของธนาคารกลางคือการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและสร้างสกุลเงินที่มั่นคงและราคาที่มีเสถียรภาพ สกุลเงินดิจิทัลก็จะเป็นเพียงแค่วิวัฒนาการของตลาดเท่านั้น” Harper กล่าว “แต่ถ้ามันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นการทดลองเกี่ยวกับบทบาทของธนาคารกลาง มันก็ทำให้ผมรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก” Harper ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแคนาดามานับตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2015 และการยอมรับ คริปโตและ blockchain ของประเทศก็ได้ขยายตัวเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ที่เขาได้ดำรงตำแหน่ง โดยแคนาดาได้อนุญาตให้มีเว็บเทรดคริปโตเป็นครั้งแรกภายใต้การกำกับในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
กดอ่านข่าว อดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดา คาด Bitcoin จะกลายมาเป็นสกุลเงินสำรองของโลกได้ ต่อที่ Siam Blockchain