จากข้อมูลของ Glassnode ระบุว่า 78% ของ Bitcoin ทั้งหมดกำลังถือครองโดยหน่วยงานหรือองค์กรและไม่ได้มีการเทขายแต่อย่างใด โดยบริษัทการวิเคราะห์ข้อมูลได้ตั้งข้อสังเกตจากตัวชี้วัดที่ใช้ในการคำนวณสภาพคล่องที่เป็นไปได้ของ Bitcoin และทำการเปรียบเทียบจำนวน Bitcoin คงเหลืออยู่ในระบบทั้งหมด รวมทั้ง Bitcoin ที่อาจสูญหายไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สัญญาณของช่วงขาขึ้น ดูเหมือนว่าในขณะนี้แรงกดดันในการขายจะกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง อันมีสาเหตุเนื่องมาจากนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ต้องการที่เพิ่มการถือครองสกุลเงินดิจิทัลในพอร์ตของพวกเขา สิ่งนี้อาจส่งผลในเชิงบวกต่อราคาสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นนีจะส่งผลทำให้ราคาของเหรียญเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง อีกทั้งยังมีเรื่องของอุปทาน Bitcoin ที่มีอยู่อย่างจำกัด และรางวัลในการขุดเหรียญที่จะทำการปรับลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนราคาของ Bitcoin การจัดหาสภาพคล่องของ Bitcoin ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หาก Bitcoin มีสภาพคล่องไม่เพียงพอ มันก็จะก่อให้เกิดวิกฤตด้านอุปทาน และส่งผลกระทบต่อแรงขายของ BTC ในตลาดที่อ่อนตัวลง ซึ่งนี่จะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเป็นสัญญาณของช่วงขาขึ้น การมาของนักลงทุนสถาบัน ในช่วงปีที่ผ่านมา Bitcoin ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน สิ่งนี้เป็นผลมาจากการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างไรก็ตามปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin นั้นมากจากความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งเมื่อสถาบันการลงทุนรายใหญ่ได้หันมาซื้อ Bitcoin อาทิเช่น Grayscale, MicroStrategy และ Square Cash App ที่ล้วนชี้ให้เห็นถึงคลื่นลูกใหม่ของกลุ่มผู้ถือครองเหรียญ Bitcoin ในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งบอกถึงกลยุทธ์ในการถือครอง Bitcoin ระยะยาวมากกว่าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หากนักลงทุนมีการถือครองสินทรัพย์ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความผันผวนของราคา Bitcoin ที่เคยประสบมาในครั้งอดีตก็จะมีความเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (safe haven)
กดอ่านข่าว Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงขาดตลาดอย่างหนัก หลังข้อมูลเผยมี 80% ของทั้งหมดไม่ได้ถูกนำมาซื้อขาย ต่อที่ Siam Blockchain