นาย Charles Hoskinson ผู้เป็นซีอีโอของ IOHK (บริษัทวิจัยด้าน Blockchain) ได้ออกมากล่าวถึงกรณีที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ทำการฟ้องร้อง Ripple ว่านี่อาจจะสร้างผลกระทบมากมายหลากหลายด้านสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตทั้งมวล ในคลิปยูทูปใหม่บนช่องของนาย Charles เขาได้อธิบายว่าการฟ้องร้องนี้จะส่งผล “อย่างลึกซึ้ง” ต่อการพิจารณาในอนาคตของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ว่าด้วยอะไรเป็นหรือไม่เป็นหลักทรัพย์ นอกจากนี้แล้ว นาย Charles กล่าวเหตุการณ์นี้จะผลักภาระในการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ (Due diligence) ของแต่ละเหรียญคริปโตให้แก่ทางเว็บเทรดคริปโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ทางเว็บเทรดเหล่านี้มีความ “อนุรักษนิยม” ในการคัดกรองและ List เหรียญใหม่ๆ ในอนาคตข้างหน้า รวมถึงจะกระตุ้นให้เว็บเทรดต่างๆ ทำการพิจารณาสกุลเงินมี่อยู่บนเว็บอย่างถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น การฟ้องร้องครั้งนี้จึงเป็นเหตุการณ์การเข้ามากำกับดูแลตลาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการคริปโต ซึ่งจะมีบทบาทในการกำหนดเส้นทางข้างหน้าของวงการเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วนาย Charles ยังตั้งข้อสังเกตว่าการฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นในเวลา “ผิดไปจากธรรมดา” เพราะว่าสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงที่นาย Jay Clayton ประธานกำลังถ่ายโอนอำนาจให้แก่ผู้ที่จะมารับช่วงต่อจากเขาภายในปลายปีนี้ ซึ่งนาย Charles กล่าวว่า “การฟ้องร้องนี้ก็เปรียบเสมือนการที่ซีอีโอตัดสินใจที่จะทำการควบธุรกิจครั้งใหญ่ หรือทำการซื้อธุรกิจเพิ่มโดยไม่ขออนุญาติหรือบอกล่วงหน้ากับผู้รับช่วงคนต่อไป แต่ผู้รับช่วงคนนั้นจะต้องดูแลจัดการการตัดสินใจเหล่านั้น” นาย Charles เชื่อว่าไม่ว่าจะอย่างไร การฟ้องร้อง Ripple นั้นควรที่จะให้ ก.ล.ต. ชุดต่อไปยื่นเอง “เพราะว่าการฟ้องร้องแบบนี้ใช้ระยะเวลาเกินหนึ่งปีในการต่อสู้คดี เนื่องด้วยคู่กรณีเป็นองค์กรขนาดใหญ่”
กดอ่านข่าว ผู้เชี่ยวชาญชี้ คดี Ripple และ ก.ล.ต. อาจเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการคริปโต ต่อที่ Siam Blockchain