ในวันนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้ออกมาพูดถึง ข้อดี-ข้อเสียของเทคโนโลยีดิจิทัลในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม และได้เน้นย้ำถึงกลุ่มผู้คนที่ไม่หวังดีหรือผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ในลักษณะจับข้อมูลเป็นตัวประกันที่เราเรียกว่า มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ที่มักมาในรูปแบบของการเรียกค่าไถ่หน่วยงานรัฐหรือเอกชนขนาดใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุน Cryptocurrency ที่ถือครองสินทรัพย์คริปโตไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยนับตั้งแต่ช่วงปี 2017 จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ภายใต้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สพธอ. (ETDA) หน่วยงานสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ตรวจพบกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่เข้ามาโจมตีข้อมูลหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น วันนาคราย (WannaCry) แกนด์แครบ สต็อป (GandCrab Stop) โพลีแรนซัม เวอร์ล็อก (PolyRansom/Virlock) และไครซิส/ดาร์มา (Crysis/Dharma) และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจากสถิติการโจมตีของมัลแวร์ นับตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2020 มีการโจมตีแล้วทั้งสิ้นเป็นจำนวนทั้งหมด 1,969 ครั้ง มัลแวร์ดังกล่าวจะเข้ามาแฮกระบบเพื่อสร้างความเสียหายต่อข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆโดยที่ผ่านมาตรวจพบว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้เซิร์ฟเวอร์ทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศโจมตีหน่วยงานที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมบันเทิง ภาคการเงินและสาธารณสุข ในหลาย ๆ ประเทศพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างผลกระทบต่อความพร้อมใช้งานขององค์กร สำหรับการรับมือและป้องกันมัลแวร์ต่าง ๆ เบื้องต้น นายพุทธิพงษ์แนะนำให้ผู้ใช้บล็อกการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง ตามข้อแนะนำของศูนย์ไทยเซิร์ต อาทิเช่น ในกรณีที่พบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ติดของคุณติดมัลแวร์ คุณควรตัดการเชื่อมต่อออกจากเครือข่ายทันที เช่น การดึงสาย Lan ออกหรือใช้เทคนิค Application Whitelist เพื่อป้องกันมัลแวร์ และโปรแกรมที่ไม่ได้รับการอนุญาตสามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้นายพุทธิพงษ์ ยังได้แนะนำให้ผู้ใช้หมั่นอัพเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ รวมถึงติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงในการเปิด Macro จากไฟล์เอกสารแนบที่มากับอีเมล กรณีหน่วยงานและ องค์กรขนาดใหญ่ ควรทำการบล็อกอีเมลที่มีไฟล์แนบจากแหล่งที่มา ที่ไม่น่าเชื่อถือ สุดท้ายนี้สำหรับนักลงทุนคริปโตที่เก็บ Cryptocurrency ไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ทางสยามบล็อกเชน แนะนำให้ท่านใช้ Hardware wallet แทนที่จะเก็บไว้ใน Web wallet หรือ App wallet จะมีความปลอดภัยมากที่สุด และไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ส่วนกลางเพื่อทำธุรกรรมใด
กดอ่านข่าว ดีอีเอส เตือนระวังมัลแวร์เรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin อาจสูญเงินหมดทั้งพอร์ต หากไม่ระวัง ต่อที่ Siam Blockchain