เมื่อเร็ว ๆ นี้นาย Marc Principato ผู้อำนวยการบริหารจาก Green Bridge Investing ได้ออกมาอธิบายเหตุผลว่าทำไมนักเทรดถึงไม่ควรซื้อ Bitcoin ที่ระดับ 16,000 ดอลลาร์ Principato ได้ตั้งข้อสังเกตที่ระดับราคาดังกล่าว เป็นระดับราคานักลงทุนกระเป๋าหนักชอบเทขายเพื่อทำกำไร นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมด้วยว่าพวกเขามักจะนำเงินเหล่านั้นกลับเข้าสู่ตลาด Bitcoin อีกครั้ง ในช่วงที่ราคาลดลงแล้ว โดยเขากล่าวอธิบายว่า : “เราต้องการให้แน่ใจก่อนว่า 3 สิ่งนี้ได้รับการยืนยันแล้ว เราถึงจะทำการเสี่ยงซื้อ Bitcoin อีกครั้ง ประการที่หนึ่งก็คือ ราคาจะต้องปรับฐานลงที่ช่วงระหว่าง $14,250 – $13,600 ประการที่สองเราต้องการเห็น Price action ที่ชัดเจนว่าราคากำลังจะมีการเซ็ตตัวไปเป็นขาขึ้น และประการที่สาม เราต้องการคอนเฟิร์มที่แน่นอน” ปัจจัยพื้นฐานที่กำลังหมดอายุ ราคา Bitcoin เริ่มมีการเคลื่อนไหวแบบ parabolic มานับตั้งแต่ที่ราคาได้พุ่งทะลุระดับ $10,500 ในกันยายน 2020 จนมาถึงจุดสูงสุดที่ระดับ $16,500 ในพฤศจิกายน โดยนักวิเคราะห์หลายคนยอมรับว่าแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษและการซื้อพันธบัตรแบบไม่มีที่สิ้นสุดของ Fed ส่งผลทำให้ตอบแทนได้จากดอกเบี้ยนั่นลดน้อยลง ในทางกลับกันสิ่งนี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนพากันหันมาออมเงินของพวกเขาใน Bitcoin แทน บางคนยังเชื่อด้วยว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐฯทำให้สภาพคล่องส่วนหนึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ระบบนิเวศของ Bitcoin นอกจากนี้ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาจากสถาบันการลงทุนต่าง ๆ รวมถึงการตัดสินใจของ PayPal ในการเปิดตัวบริการซื้อและขาย Bitcoin บนแพลตฟอร์มการชำระเงินของพวกเขา อย่างไรก็ตามนาย Andrew Gonci กรรมการผู้จัดการของ Green Bridge Investing คาดว่าตัวเร่งปฏิกิริยาทั้งหมดนี้จะเริ่มชะลอตัวลดลงและเกิดการกลับตัวไปเป็นขาลง เมื่อราคาเริ่มเข้าใกล้กับระดับ $16,500 โดยเขากล่าวว่า “หากคุณซื้อ Bitcoin 100 ล้านดอลลาร์ที่ระดับ 10,000 และตอนนี้มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านดอลลาร์ที่ระดับ 16,000 มีหรือที่คุณจะไม่อยากขายมัน” นาย Gonci กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “นี่คือวิธีคิดง่าย ๆ ของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์” กระแสเงินทุนไหลเข้า ในขณะเดียวกันนาย Willy Woo
กดอ่านข่าว นักวิเคราะห์อธิบายเหตุผลว่าทำไมการซื้อ BITCOIN ที่ระดับ 16,000 ดอลลาร์ถึงมีความเสี่ยง ต่อที่ Siam Blockchain