💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

มีเหรียญคริปโตมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ที่แฮกเกอร์ขโมยไปแล้ว นับตั้งแต่ปี 2011

เผยแพร่ 12/11/2563 15:42
อัพเดท 12/11/2563 16:10
© Reuters.  มีเหรียญคริปโตมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ที่แฮกเกอร์ขโมยไปแล้ว นับตั้งแต่ปี 2011

รายงานล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านบล็อกเชนในอัมสเตอร์ดัม Crystal Blockchain เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2011 มีเหรียญคริปโตที่ถูกขโมยไปแล้วร่วมกว่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขทั้งหมดนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ การถูกแฮ็กและการตุ้มตุ๋น รายงานพบว่ามีการขโมยเหรียญคริปโตจากเว็บเทรด ทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ปี 2011 บริษัทพบว่า มีการขโมยเหรียญคริปโตจากเว็บเทรดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 113 แห่งและการแฮกครั้งที่ใหญ่ที่สุดคือ การแฮกเว็บเทรด Coincheck ในปี 2018 ซึ่งครั้งนั้นแฮกเกอร์ได้ขโมยเหรียญ NEM ไปเป็นมูลค่าร่วมกว่า 535 ล้านดอลลาร์ ดูเหมือนว่าเว็บเทรดคริปโตในสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักรจีนและเกาหลีใต้ จะตกเป็นเหยื่อการแฮกมากที่สุด โดยเว็บเทรดคริปโตของสหรัฐฯ ได้ตกเป็นเหยื่อของการแฮกถึง 13 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ส่วนที่เหลืออีก 4.8 พันล้านดอลลาร์นั่นถูกขโมยโดยวิธีการต้มตุ๋น โดยรายงานจาก Crystal Blockchain เผยให้เห็นว่า นับตั้งแต่ปี 2011 มีแผนการต้มตุ๋นนักลงทุนที่โดดเด่นที่สุดทั้งหมด 23 รายการ “เราคิดว่าเหรียญคริปโตมูลค่ากว่า 7.6 พันล้านดอลลาร์นั้น เป็นจำนวนเงินทั้งหมดนับตั้งแต่ปี 2011” นาย Kyrylo Chykhradze ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Crystal Blockchain กล่าว ในแง่ของมูลค่าที่ถูกขโมยไป จีนได้ขึ้นแท่นนำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยรายงานระบุว่า การจัดอันดับส่วนใหญ่มาจากโปรเจคแชร์ลูกโซ่ PlusToken ที่เกิดขึ้นในปี 2019 (2.9 พันล้านดอลลาร์) และโปรเจค WoToken ที่เกิดขึ้นในปี 2020 (1 พันล้านดอลลาร์) เว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่ที่ถูกแฮกนั้นมีระบบตรวจสอบความปลอดภัยที่ค่อนข้างต่ำ ยกตัวอย่างเช่นเพียงแค่คุณกรอกอีเมล์หรือหมายเลขโทรศัพท์ก็สามารถถอนเงินได้ทันที สำหรับกรณีของ Coincheck นั้น บริษัทได้เก็บเหรียยคริปโตส่วนใหญ่ไว้ในกระเป๋าเงิน Wallet ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกอื่น ๆ อีกหลายแห่ง นอกจากนี้บริษัทยังบกพร่องในเรื่องรักษาความปลอดภัย ที่ไม่มีการใช้ multisignature อีกด้วย ซึ่งวิธีนี้จำเป็นจะต้องให้ผู้ถือ Private Key หลายรายร่วมกันลงชื่อก่อนถึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้ นาย

กดอ่านข่าว มีเหรียญคริปโตมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ที่แฮกเกอร์ขโมยไปแล้ว นับตั้งแต่ปี 2011 ต่อที่ Siam Blockchain

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย