Investing.com - ราคา Bitcoin ซื้อขายแบบขาขึ้นในวันนี้ โดยยังคงอยู่ในระดับที่ฟื้นตัวขึ้นจากการขาดทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสู่กองทุนการซื้อขายแลกเปลี่ยน และการคาดการณ์เกี่ยวกับ "halving" ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ได้ช่วยพยุงราคาสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกไว้
Bitcoin เพิ่มขึ้น 4.9% เป็น 67,462.8 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 01:46 ET (05:46 GMT) และมีการซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นเดือนมีนาคมเพียง 6,000 ดอลลาร์ เท่านั้น
ราคา Bitcoin ได้แรงสนุนจากการไหลเข้า ETF และความสนใจต่อ “halving” ที่จะเกิดขึ้น
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยร่วงลงต่ำสุดที่ 60,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเทรดเดอร์ล็อกกำไรในการพุ่งขึ้นล่าสุด
โทเค็นมีการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับต่ำสุด เนื่องจากเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ได้รับการอนุมัติเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังคงแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม การไหลออกอย่างต่อเนื่องจาก Grayscale Bitcoin Trust (BTC) (NYSE:GBTC) ก็ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาสปอต Bitcoin
ความคาดหวังเกี่ยวกับเหตุการณ์ "halving" ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอัตราการผลิตโทเค็นใหม่ของ Bitcoin จะลดลง 50% ยังคงทำให้ความสนใจในการเข้าซื้อในสกุลเงินดิจิทัลเป็นบวก
เหตุการณ์ "halving" นั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน โดยมีการสร้างบล็อค 740,000 และมีแนวโน้มที่จะจำกัดอุปทานของ Bitcoin ต่อไป แต่ตลาดยังไม่มั่นใจในระยะเวลาที่แน่นอนของเหตุการณ์
แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของราคา Bitcoin ที่มากขึ้นนั้นส่วนใหญ่กลับถูกจำกัดด้วยความแข็งแกร่งของสกุลเงิน ดอลลาร์ ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันนี้ เนื่องจากสัญญาณเชิงบวกจากธนาคารกลางรชั้นนำทั่วโลก ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันเหความสนใจไปที่เงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินเดียวที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงต่ำ
การคาดการณ์ถึงสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากข้อมูล ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล ที่จะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ ก็ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ของเฟดหลายคนก็มีกำหนดการณ์ขึ้นกล่าวปราศรัยในสัปดาห์นี้ เพื่อเสนอแนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการของธนาคารในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยปี 2024 การประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางยังคงมีแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 75 จุดในปีนี้