💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

บิตคอยน์ร่วงหลุด $27,000 ดิ่งตามวอลล์สตรีท ผวาคองเกรสคว่ำดีลเพดานหนี้

เผยแพร่ 01/06/2566 06:38
© Reuters.  บิตคอยน์ร่วงหลุด $27,000 ดิ่งตามวอลล์สตรีท ผวาคองเกรสคว่ำดีลเพดานหนี้
DX
-
COIN
-

InfoQuest - บิตคอยน์ร่วงลงหลุดระดับ 27,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการลงมติของสภาคองเกรสต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สหรัฐ

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังถูกกดดันจากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

ณ เวลา 23.24 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดิ่งลง 3.35% สู่ระดับ 26,930.85 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase (NASDAQ:COIN)

นอกจากนี้ บิตคอยน์ร่วงลง 8% นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ส่งผลให้เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่บิตคอยน์ปรับตัวลงนับตั้งแต่ต้นปี 2566 และเป็นเดือนที่บิตคอยน์ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนที่สภาคองเกรสจะลงมติต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในวันนี้

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) ในคืนนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือพรุ่งนี้เช้า (1 มิ.ย.) เวลา 07.30 น.ตามเวลาไทย

หากสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

กระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ดี การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยมมากกว่า 20 รายประกาศว่าพวกเขาจะโหวตคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ พร้อมกับกล่าวหาว่า นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ยอมอ่อนข้อต่อปธน.ไบเดนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในงบประมาณ แทนที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ตามที่มีการตกลงกันไว้

นอกจากนี้ สมาชิกพรรครีพับลิกันดังกล่าวยังขู่ที่จะลงมติไม่ไว้วางใจนายแมคคาร์ธี หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาผู้แทนราษฎร

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. สวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานปรับเพิ่มตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 9.75 ล้านตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 9.59 ล้านตำแหน่ง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน เป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย