BeInCrypto - เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เตือนว่า อัตราดอกเบี้ย มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงกว่านโยบายของธนาคารกลางที่คาดไว้ โดยปรับเพดานจาก 5% เป็น 5.5-5.75%
อ้างข้อมูลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในช่วงปลายปี 2022 เริ่มพลิกกลับสูงขึ้นเพราะเศรษฐกิจในช่วงหลังปีใหม่ค่อนข้างร้อนแรง ผู้นำธนาคารกลางเตือนถึงนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นเพื่อชะลอการเติบโต
เศรษฐกิจฟื้นตัวมากเกินไป
“ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าระดับสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยน่าจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้” Powell กล่าวในคำปราศรัยที่เตรียมไว้สำหรับการปรากฏตัวสองครั้งในสัปดาห์นี้ที่ Capitol Hill “หากผลรวมของข้อมูลบ่งชี้ว่าเราควรใช้นโยบายที่รุนแรงขึ้น เราก็พร้อมที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย”
ข้อมูลในเดือนมกราคมแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อที่วัดโดยราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ยังคงวิ่งอยู่ที่ระดับ 5.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ 2% และอยู่เหนือระดับเดือนธันวาคม
ตัวเลขนี้สะท้อนผลเชิงลบ และหมายความว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อของ FED ยังไม่จบลง แม้ว่าตัวเลขของเดือนมกราคมอาจเป็นผลจาก Heat wave ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
การควบคุม อัตราดอกเบี้ย
ในการประมาณการเดือนธันวาคม เพดานของอัตราดอกเบี้ยถูกตั้งไว้ที่ 5.1% แต่แถลงการณ์ล่าสุดของ Powell จะปรับสูงขึ้นเป็น 5.5%-5.75% แทน ตามข้อมูลของ CME Group Powell ไม่ได้ระบุว่าเขาคิดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงแค่ไหนในท้ายที่สุด
หลังจากการแถลงของ Powell ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักในขณะที่อัตราผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังพุ่งสูงขึ้น ราคาของสินทรัพย์เหล่านี้ กำลังอ่อนไหวเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5 จุด ในวันที่ 21-22 มีนาคม จากประชุม Federal Open Market Committee
สำหรับสินทรัพย์ดิจิตอลอย่าง Bitcoin ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในอุตสาหกรรม ความผันผวนอาจเกิดขึ้นได้เพราะนับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างชัดเจนจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อในช่วงต้นปีที่ผ่านมา