BeInCrypto - NEAR คือแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลและสัญญาอัจฉริยะแบบโอเพ่นซอร์สกระจายศูนย์ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของอัลกอรึทึมฉันทามติ Proof-of-Stake (PoS) เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ปรับขนาดได้, รวดเร็ว, เป็นมิตรกับผู้พัฒนา, และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจหรือ DApps อีกด้วย กระเป๋าเงิน NEAR ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยนสกุลเงิน NEAR ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมีประสบการณ์ในพื้นที่ Crypto ก็ตาม การใช้งานกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย, ใช้งานง่าย, และเต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดในการใช้จัดเก็บและจัดการ NEAR ให้กับคุณ
ต้องการรับทราบรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับกระดานเทรดและกระเป๋าเงิน Crypto ยอดนิยมหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: อ่านรีวิวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องคริปโต และสอบถามเรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ จากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้
สิ่งใดที่เรากำลังมองหาในกระเป๋าเงิน NEAR
การเลือกกระเป๋าเงิน NEAR ที่ดีที่ตรงตามความต้องการรวมไปถึงการให้ความปลอดภัยและความสะดวกสบายแก่คุณถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น โปรดพิจารณาถึงความสำคัญของหัวข้อดังต่อไปนี้:
ความปลอดภัย
ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินของคุณนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากมันช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณจากการถูกขโมยหรือสูญหาย ดังนั้น จงมองหากระเป๋าเงินที่มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA), การผสานรวมกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์, และตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์
ใช้งานได้ง่าย
การเลือกกระเป๋าเงินที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและใช้งานได้ง่ายนั้นคืออีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่) ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว การใช้กระเป๋าเงินที่มีอินเตอร์เฟสที่สะอาดตาและใช้งานได้ง่ายนั้นยังช่วยให้เข้าใจวิธีการทำงานของมันได้อย่างชัดเจน
ความเข้ากันได้
ตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ จงตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันพร้อมใช้งานบนแพลตฟอร์ม iOS หรือ Android ของอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
ฟีเจอร์
กระเป๋าเงินต่างๆ นั้นจะมีฟีเจอร์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะพิจารณาถึงฟีเจอร์ที่คุณต้องการอย่างรอบคอบ ฟีเจอร์ที่สำคัญเหล่านั้นอาจจะรวมไปถึง การรองรับสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย, การผสานรวม, ตัวเลือกการ Staking, หรือความสามารถในการโต้ตอบกับ DApps
ชื่อเสียง
ให้พิจารณาเกี่ยวกับชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในชุมชน Crypto อ่านรีวิวต่างๆ และทำการศึกษาข้อมูลให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินที่คุณต้องการจะใช้งานนั้นไว้วางใจได้และมีความน่าเชื่อถือมากพอ
กระเป๋าเงิน NEAR ชั้นนำ 5 ตัว
โปรโตคอล NEAR แบบโอเพ่นซอร์สนั้นช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถพัฒนากระเป๋าเงินหรือเครื่องมือที่มีความเข้ากันได้กับเครือข่าย NEAR ผลลัพท์ก็คือมีกระเป๋าเงินมากมายที่รองรับ NEAR
1. Guarda (กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์)
Guarda เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ที่รองรับสกุลเงิน NEAR มันมีคุณสมบัติที่เรียบง่ายในการใช้จัดเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยน Crypto ของคุณ Guarda นั้นสามารถใช้งานได้ในหลายๆ แพลตฟอร์มซึ่งสะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์ที่หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยอำนวยความสะดวกในการผสานรวมกับกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) และรองรับการทำงานแบบหลายบัญชี
ประวัติ
บริษัทที่อยู่เบื้องหลังกระเป๋าเงินนี้คือ Guarda Wallet OU ซึ่งบริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนที่อยู่ในประเทศเอสโตเนีย Guarda ถือกำเนิดขึ้นในปี 2017 และกลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการจัดเก็บและจัดการสกุลเงินดิจิทัล ทีมงานของ Guarda นั้นนำโดย CEO Paul Sokolov และผู้เชี่ยวชาญในสาขาการพัฒนาซอฟต์แวร์, เทคโนโลยีบล็อกเชน, และความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์
ฟีเจอร์
- UI ที่ใช้งานได้ง่าย: ด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและรูปแบบที่เรียบง่าย มันทำให้กระเป๋าเงินตัวนี้ใช้งานได้ง่ายมาก มันยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับผู้ใช้งานมากประสบการณ์ เช่น การผสานรวมกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) และความสามารถในการจัดการหลายบัญชี
- ความปลอดภัย: Guarda ผสมผสานการเก็บข้อมูลทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อช่วยให้สกุลเงินดิจิทัลของคุณมีความปลอดภัย มันจะจัดเก็บ Private Keys ของคุณบนอุปกรณ์ของคุณในรูปแบบเข้ารหัสอย่างปลอดภัย มันยังมีการใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่งด้วย
- การรองรับที่หลากหลาย: Guarda รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย ซึ่งรวมถึง NEAR, Bitcoin, Ethereum, Litecoin และอื่นๆ อีกมากมาย
- Non-Custodial: Guarda เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถควบคุม Private Keys ของพวกเขาได้
- ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม: Guarda สามารถใช้งานได้ทั้งเว็บแอป, แอปเดสก์ท็อป, และแอปมือถือ ทำให้สะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่มีอุปกรณ์ที่หลากหลาย มันยังพร้อมใช้งานได้บน Windows, Mac, Linux, iOS, และ Android
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย
- ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม
- มี UI ที่ใช้งานได้ง่าย
- มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
ข้อเสีย
- รองรับสกุลเงิน Fiat และ NFTs อย่างจำกัด
2. Ledger Nano X (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)
- ซื้อ
Ledger Nano X เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ชั้นสูงที่ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บและจัดการกับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย — รวมถึง NEAR — ได้ นี่คือหนึ่งในกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ ด้วยเหตุนี้ Bitcoins, Ethereums, XRP และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อีกมากมายของคุณจะได้รับการป้องกันที่ดีที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องเสียสละความสามารถในการใช้งานหรือการควบคุม
ประวัติ
ในปี 2014 ผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัล 8 คนได้ก่อตั้งบริษัท Ledger ขึ้นมา ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Ledger นั้นประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์, การพัฒนาซอฟต์แวร์, ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ CEO Pascal Gauthier นั้นยังเป็นผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์เช่นกัน
Ledger เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม Cryptocurrency ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายโดยนักลงทุนและนักเทรดทั่วโลก พวกเขายังได้รับเงินทุนจากนักลงทุนและบริษัทร่วมทุนที่มีชื่อเสียงมากมาย สำนักงานใหญ่ของ Ledger อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่พวกเขานั้นก็มีทีมงานและออฟฟิตอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ฟีเจอร์
- มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
- เป็นโอเพ่นซอร์สที่มาพร้อมกับ 2FA (การยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย)
- สะดวกและใช้งานได้ง่าย
- การออกแบบที่กะทัดรัดและพกพาได้สะดวก
- ความสามารถในการผสานรวมกับกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมมากมาย และยังรองรับการทำงานแบบหลายบัญชี
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- เป็นอุปกรณ์ USB ที่ใช้จัดเก็บ Private Keys ของคุณ
- ใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมาย รวมถึงบน PC และสมาร์ทโฟน
- ใช้งานได้ง่าย
- สามารถติดตั้งแอปได้มากกว่า 100 แอปพร้อมกัน
ข้อเสีย
- หน้าจอแสดงผลค่อนข้างเล็ก
- ขาดระบบหน้าจอสัมผัส
- ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ
3. Trezor (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)
- ซื้อ
กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Trezor (Model T และ Model One) นั้นใช้งานได้สะดวกสบายและมีความปลอดภัยสูง หากต้องการใช้ NEAR กับ Trezor คุณจะต้องติดตั้งแอป NEAR บนอุปกรณ์ Trezor ของคุณและสร้างกระเป๋าเงิน NEAR เสียก่อน นี่คือกระเป๋าเงินแบบออฟไลน์ที่ปลอดภัยที่สุดที่จะให้อิสรภาพทางการเงินกับคุณ ซึ่งจะส่งผลให้คุณสามารถใช้งาน, จัดเก็บ, และปกป้องเหรียญ/โทเค็นของคุณได้อย่างง่ายดาย
ประวัติ
Trezor ถือกำเนิดมาจากผู้ที่หลงใหลในสกุลเงินดิจิทัล 2 คน Pavol Rusnak และ Marek ผู้ซึ่งก่อตั้ง SatoshiLabs ในปี 2013 ภารกิจของบริษัทนั้นก็คือการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลและทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเข้าถึงมันได้มากยิ่งขึ้น
กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Trezor นั้นเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่พัฒนาโดย SatoshiLabs เพื่อเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับสกุลเงินดิจิทัลสำหรับทุกคน คู่แข่งของพวกเขาคือ Ledger ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ยอดนิยมอีกรายในตลาด ทีมงานของ Trezor นั้นประกอบด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเข้ารหัส, การรักษาความปลอดภัย และการพัฒนาซอฟต์แวร์
ฟีเจอร์
- Trezor นั้นสามารถพกพาได้
- มีสาย USB Type-C สำหรับเชื่อมต่อกับ PC และสมาร์ทโฟน
- รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 1,400 รายการ
- เข้าถึงกระดานเทรดบุคคลที่สามได้
- มี UI ที่เรียบง่าย
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสูงสุด
- รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย
- ซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส
- ใช้หน้าจอสัมผัส
ข้อเสีย
- หน้าจอมีขนาดเล็ก
- ราคาสูงกว่ากระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆ ในตลาด
4. SafePal (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)
- ซื้อ
กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ SafePal S1 ช่วยมอบวิธีการที่ปลอดภัยในการจัดเก็บและจัดการกับสินทรัพย์ดิจิทัล กระเป๋าเงินนี้จะเก็บ Private Keys ของคุณไว้แบบออฟไลน์ ทำให้มันเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงิน Crypto ที่ปลอดภัยมากที่สุด มันรองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุลและยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูประวัติธุรกรรมของพวกเขาหรือทำธุรกรรมได้
ประวัติ
SafePal เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์และสกุลเงินดิจิทัลในปี 2018 CEO ของ Safepal Veronica Huang เป็นผู้นำของทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ทุ่มเทในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และการเข้ารหัส
ฟีเจอร์
- รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุล ซึ่งรวมไปถึง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และอื่นๆ อีกมากมาย
- UI ที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ง่ายทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็ตาม
- มีระดับของความปลอดภัยมากพิเศษ
- พกพาง่าย
- สำรองและกู้คืนข้อมูลได้
- รองรับหลายภาษา
- พื้นที่จัดเก็บโทเค็นไม่จำกัด
- สนับสนุนลูกค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย รวมไปถึง อีเมล์ และ ไลฟ์แชท
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- มี UI ที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ง่าย
- ราคาค่อนข้างเหมาะสมเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- สนับสนุนลูกค้าผ่านทางระบบแชท
ข้อเสีย
- ไม่มีตัวเลือกการใช้งานบนเดสก์ท็อป
- ไม่มีอินเตอร์เฟสบนเว็บ
5. Trust Wallet (กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์)
Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงิน Crypto ยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนและพร้อมใช้งานทั้งบนอุปกรณ์ iOS และ Android
ประวัติ
Trust Wallet เป็นกระเป๋าเงิน Crypto บนมือถือที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Viktor Radchenko เดิมทีแล้ว พวกเขาเป็นกระเป๋าเงินสำหรับ Ethereum และโทเค็นที่มีพื้นฐานบน Ethereum เท่านั้น จากนั้น พวกเขาได้ขยายขอบเขตเพื่อที่จะสามารถรองรับ Crypto ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ในปี 2018 Binance ได้เข้าซื้อกิจการ Trust Wallet มันใช้งานได้ฟรีและยังลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมให้กับผู้ใช้งานหากมีการถือโทเค็น STWT ไว้อย่างน้อย 100 โทเค็น
ฟีเจอร์
- รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุล
- จัดการสินทรัพย์และธุรกรรมของคุณได้อย่างง่ายดาย
- การป้องกันด้วยรหัสผ่านและการยืนยันตัวตนด้วยด้วยข้อมูลทางชีวภาพจะช่วยปกป้องทรัพย์สินของคุณ
- ใช้งานกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้
- เบราเซอร์ DApps ในตัว
- เล็ก, เบา, และใช้งานได้สะดวก
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ปลอดภัย
- ใช้งานได้ทั้งบนอุปกรณ์แบบ iOS และ Android โดยการดาวน์โหลดแอป NEAR Wallet
- เบราเซอร์ DApps ช่วยให้คุณโต้ตอบกับ DApps บน Ethereum Blockchain ได้
- รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากมาย
- เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial
- ช่วยให้ทำการ Staking ได้
ข้อเสีย
- ไม่มีการจัดเก็บแบบออฟไลน์
- การสนับสนุนลูกค้าโดยตรงแบบจำกัด
ข้อมูลต่างๆ ของกระเป๋าเงิน NEAR โดยสรุป
1. Guarda
- ความปลอดภัย: Multi-Signature (ต้องใช้อย่างน้อย 2 คีย์ขึ้นไปในการทำธุรกรรมใดๆ)
- ทำงานได้บน: เดสก์ท็อป, มือถือ, และเบราว์เซอร์
- การผสานรวม: การผสานรวม DEX (กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ) และการทำงานหลายบัญชี
- เครื่องมือ: สื่อการเรียนรู้ในแอป
- การจัดเก็บข้อมูล: ออนไลน์
2. Ledger
- ความปลอดภัย: Multi-Signature และ 2FA (การยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย)
- ทำงานได้บน: แอปเดสก์ท็อปและมือถือ
- การผสานรวม: การสนับสนุนลูกค้าผ่านการแชท, อีเมล, และโซเชียลมีเดีย
- เครื่องมือ: รองรับ NFT และมีไลบรารี่ของสินทรัพย์
- การจัดเก็บข้อมูล: ออฟไลน์
3. Trezor
- ความปลอดภัย: 2FA
- ทำงานได้บน: ส่วนขยายเบราว์เซอร์, แอปเดสก์ท็อป
- การผสานรวม: รองรับการซื้อ, การแลกเปลี่ยน, NFTs และการ Staking
- เครื่องมือ: ศูนย์ช่วยเหลือ
- การจัดเก็บข้อมูล: ออฟไลน์
4. SafePal
- ความปลอดภัย: 2FA และ Multi-Signature
- ทำงานได้บน: แอปมือถือ, เบราว์เซอร์
- การผสานรวม: การแลกเปลี่ยน, การแปลง, การซื้อ และ NFTs
- เครื่องมือ: ศูนย์ช่วยเหลือ
- การจัดเก็บข้อมูล: ออฟไลน์
5. Trust Wallet
- ความปลอดภัย: ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
- ทำงานได้บน: เดสก์ท็อป, เบราว์เซอร์ และแอปมือถือ
- การผสานรวม: การซื้อ, การแลกเปลี่ยน, NFTs, การ Staking และความสามารถของ Web3
- เครื่องมือ: สื่อการเรียนรู้ในแอป
- การจัดเก็บข้อมูล: ออนไลน์
กระเป๋าเงิน NEAR ที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ
กระเป๋าเงิน NEAR ทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นนั้นเชื่อถือได้และเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับจัดเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล Trust Wallet นั้นได้รับความนิยมจากความเรียบง่ายและความเป็นมิตรกับผู้ใช้งานของมัน ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ ในขณะเดียวกัน SafePal นั้นมุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัยและใช้งานง่าย Ledger และ Trezor เป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ที่มีชั้นการป้องกันเพิ่มขึ้นด้วยการจัดเก็บสินทรัพย์แบบออฟไลน์ Guarda มีฟีเจอร์ที่รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมาย สุดท้ายนี้ กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบที่เฉพาะเจาะจงของคุณ
คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ
- Non-Custodial Wallet: กระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ให้บริการเป็นเพียงผู้พัฒนาโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชั่นและไม่ได้ทำหน้าที่เก็บรักษา Private Key ให้แก่ผู้ใช้งาน การใช้งาน Wallet ลักษณะนี้มีข้อดีคือ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้เก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลเอง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือหรือระบบในการเก็บรักษา
- DApps (Decentralized Application): แอปพลิเคชั่นที่มีการนำบล็อกเชนมาสร้างขึ้นเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาโดยดึงข้อเด่นของ Blockchain และ Smart Contract ในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายบนเครือข่ายและความปลอดภัยมาใช้
- Staking: การที่เราเอาสกุลเงินดิจิทัลเราที่มีไปวางค้ำประกัน(ล็อก)ไว้เฉยๆ จากนั้นแพลตฟอร์มก็จะให้รางวัลตอบแทนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่แพลตฟอร์มกำหนด
- NFT (Non-Fungible Token): คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่แต่ละโทเค็นหรือแต่ละเหรียญมีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถแทนที่กันได้ NFT จัดเป็นสินทรัพย์ Cryptocurrency ชนิดหนึ่ง