วันนี้เราได้สนทนากับคุณสำเร็จ วจนะเสถียร Chief Technology Officer ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และ ShuttleOne Network เพื่อพัฒนาโปรเจกต์บล็อกเชนจนได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านภาษา C/C++ และการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Agile Methodologies จะเข้ามาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงระบบบน Bitkub Chain จาก POA สู่ POSA ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็น POS อย่างเต็มรูปแบบ POSA คืออะไร Proof of Staked Authority (POSA) คือระบบฉันทามติที่อ้างอิง “ชื่อเสียง” ของผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator Node) ดังนั้น Node ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมบนบล็อกเชนประเภทนี้ จำเป็นต้อง “เปิดเผยตัวตน” ว่าเป็นใครหรือองค์กรอะไร ซึ่งบล็อกเชนเป็นเครือข่ายที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าธุรกรรมที่ได้รับการยืนยันไป ใครเป็นผู้ยืนยัน และเป็นไปอย่างสุจริตหรือไม่ หากตรวจสอบย้อนหลังและพบการทุจริตหรือข้อผิดพลาด ผู้ที่ยืนยันธุรกรรมก็อาจสูญเสียชื่อเสียงได้ ทั้งนี้ การจะเป็น Validator Node บนบล็อกเชนประเภทนี้ได้ จำเป็นต้องได้รับตวามเห็นชอบจาก Validator คนอื่น ๆ บนเครือข่ายเสียก่อน ซึ่งรวมถึงการปลดออกจาการเป็น Validator ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Validator คนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ Bitkub Chain ได้ใช้ระบบ Proof of Authority (POA) ซึ่งตอนนี้กลายมาเป็น Proof of Staked Authority และกำลังเป็นการปรับเข้าสู่ Proof of Stake (PoS) อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต “เครื่องที่เป็น Node Validator ช่วงเวลานับจากนี้ไปถึงพฤษภาคมจะมีการอัปเกรดค่อนข้างบ่อย ทำให้ผู้ที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราสามารถที่จะอัปเกรดตามได้เพื่อให้ปริมาณธุรกรรมที่มากขึ้น แต่หากว่าไม่สามารถอัปเกรดตามได้ตัวโทเคนที่ stake ไว้ก็จะถูกยึดไว้” POSA แตกต่างจาก PoA เดิมอย่างไร ดีกว่าอย่างไร การอัปเกรดดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมที่จะไปถึง
กดอ่านข่าว POSA คืออะไร ทำไม Bitkub Chain ถึงเปลี่ยนมาใช้ คนทั่วไปเป็น Node Validator ได้ไหม ‘พี่สำเร็จ’ มีคำตอบ ต่อที่ Siam Blockchain