เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Cambridge Centre for Alternative Finance (CCAF) เผยรายงานใหม่ที่น่าสนใจโดยระบุว่า การขุดเหมือง Bitcoin นั้นก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกเพียง 0.10% เท่านั้น จากอัตราการเผาไหม้ของก๊าซคาร์บอนทั่วโลกทั้งหมดอยยู่ที่ 48.35 ล้านตัน และข้อมูลยังพบอีกว่า 37.6% ของพลังงานที่ใช้ในการขุดเหมือง Bitcoin ส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่มาจากแหล่งพลังงานสะอาด ข้อมูลตัวเลขนี้อ้างอิงจากการสำรวจเหมือง Bitcoin ในเดือนมกราคม และนำมาเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานไฟฟ้าของคนทั่วไปในภาคส่วนต่าง ๆ แต่ไม่ได้นับรวมกับตัวเลขที่มาจากการกระทำที่อาจจะช่วยลดก๊าซพิษได้ เช่น การใช้ก๊าซจากการเผาไหม้ การผลิตพลังงานจากโซลาเซลล์ และการนำพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่ อย่างไรก็ตามการคำนวนเปอร์เซ็นต์สำหรับการใช้แหล่งพลังงานสะอาดในการขุด Bitcoin ที่จัดทำขึ้นโดย CCAF นั้นดูเหมือนจะคลาดเคลื่อนไปจากจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ถูกคำนวนโดย Bitcoin Mining Council ที่คำนวนไว้อยู่ที่ 59.5% อ้างอิงตามข้อมูลการสำรวจบริษัทเหมืองขุด Bitcoin ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ รายงานดังกล่าวยังได้ระบุถึงประเด็นโต้แย้งที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ที่เชื่อว่า Bitcoin จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ที่เชื่อว่า Bitcoin จะกลายมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน “จากการสำรวจความคิดเห็นจากทั้งสองฝ่าย บางส่วนกล่าวอ้างถึงสิ่งที่ขัดต่อหลักความเป็นจริง ขณะที่คนอื่น ๆ ที่เหลือมีข้อมูลประกอบน้อย กลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่ายต่างแข่งขันกันเพื่อกลุ่มคนเกิดความโน้มเอียงทางความคิดเห็นให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ และกดดันให้ผู้ออกนโยบายออกกฎหมายที่เอื้อแก่ฝ่ายตัวเอง” รายงานของทำเนียบขาวเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตและสภาพอากาศที่เผยแพร่ไปเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ได้สนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลส่งเสริมการออกกฎหมายควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยฝ่ายบริหารหรือสภาคองเกรสอาจพิจารณาถึงข้อจำกัดต่างๆ ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าประเภทของพลังงานต่าง ๆ
กดอ่านข่าว ข้อมูลใหม่เผย การขุด Bitcoin คิดเป็นเพียง 0.1% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ต่อที่ Siam Blockchain