💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

สดใสรับต้นปี! ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ดันดัชนีราคาทองม.ค.เพิ่ม

เผยแพร่ 15/01/2566 00:56
© Reuters สดใสรับต้นปี! ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ดันดัชนีราคาทองม.ค.เพิ่ม

InfoQuest - นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ม.ค.66 อยู่ที่ระดับ 64.99 เพิ่มขึ้น 6.63 จุด หรือคิดเป็น 11.36% จากเดือนธ.ค.65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.36 จุด โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แรงซื้อเก็งกำไร และความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย ตามลำดับ

ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะ 3 เดือนในไตรมาสแรกของปี 66 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ของปี 65 จากระดับ 50.80 จุด มาอยู่ที่ระดับ 61.96 จุด เพิ่มขึ้น 11.16 จุด หรือคิดเป็น 21.97% โดยดัชนีฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น มีสาเหตุจากเงินทุนไหลออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ภาวะเงินเฟ้อ แรงซื้อช่วงเทศกาล และทิศทางราคาน้ำมัน

สำหรับคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือนม.ค.66 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 315 ราย ในจำนวนนี้มี 180 ราย หรือเทียบเป็น 57% จะซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 105 ราย หรือเทียบเป็น 33% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ และจำนวน 30 ราย หรือเทียบเป็น 10% ไม่ซื้อทองคำโดยกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 54% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนม.ค.66 จะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนธ.ค.65 และจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าจะลดลงสำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนม.ค.66 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,798 - 1,924 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29,200 - 30,400 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.06 - 34.76 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนการลงทุนทองคำในเดือนม.ค.66 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า แม้แนวโน้มราคาทองคำจะเป็นบวกมากขึ้นในระยะกลาง แต่เนื่องจากราคาทองที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก อาจส่งผลให้เกิดแรงขาย กดดันราคาทองออกมาอีกครั้ง แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น หรือหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้ แนะนำลดความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนจากสภาวะตลาด หรือจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย