โดย Ambar Warrick
Investing.com-- ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากสัญญาณที่ผ่อนคลายลงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่กำลังเผชิญกับการขาดทุนรายสัปดาห์อย่างมาก เนื่องจากแนวโน้มอุปสงค์ถดถอยและความกังวลเรื่องอุปทานตึงตัวลดลง
ตลาดน้ำมันดิบร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงเป็นประวัติการณ์ในจีน เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่อ่อนตัวลง
ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในหลายเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ยังแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง โดยล้วนแต่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 85.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 78.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 21:35 น. ET (02:35 GMT) สัญญาทั้งสองฉบับถูกกำหนดให้ขาดทุนมากกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวล่าสุดของค่าเงิน ดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่ากำลังพิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงบางส่วน
ความกังวลเรื่องอุปทานที่ตึงตัวที่ลดลงนั้นได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ปรับตัวลง กลุ่มเจ็ดประเทศหรือ G7 ถูกมองว่าได้จำกัดราคาขายน้ำมันของรัสเซียสูงกว่าที่คาดไว้มาก
โอกาสที่ราคาน้ำมันรัสเซียจะสูงสุดอยู่ที่ 65 ถึง 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนั้นได้ขจัดความกลัวว่ามอสโกจะลดการส่งออกน้ำมันเพื่อป้องกันการขายที่ขาดทุน
แต่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่าประเทศจะไม่จัดหาน้ำมันและก๊าซให้กับประเทศใด ๆ ที่สนับสนุนการจำกัดราคา การจำกัดราคาคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมที่สหภาพยุโรปจะสั่งห้ามการนำเข้าพลังงานของรัสเซียทั้งหมดด้วย
จุดสนใจในเดือนหน้ายังคงอยู่ที่ การประชุม ขององค์กรประเทศและพันธมิตรผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) ในวันที่ 4 ธันวาคม โดย OPEC+ ได้ประกาศลดอุปทาน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนนี้
ตลาดต่าง ๆ จะจับตาดูการประกาศมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากซาอุดิอาระเบีย ผู้นำ OPEC+ ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนราคาน้ำมันดิบเมื่อต้นสัปดาห์นี้