รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

น้ำมันร่วงต่ำกว่า 90 ดอลลาร์เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้อุปสงค์ลดลง

เผยแพร่ 22/09/2565 08:08
© Reuters.

โดย Ambar Warrick

Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีท่าทีแข็งกร้าวกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในการซื้อขายที่ผันผวนในวันพุธ หลังจากที่เฟดปรับ อัตราดอกเบี้ยขึ้น 75 จุดพื้นฐานตามที่คาดไว้ แต่ความเห็นจากประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งระบุว่าจำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด

พาวเวลล์กล่าวว่าขณะนี้ธนาคารกลางยินดีที่จะเสี่ยงต่อความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นและตลาดแรงงานในขณะที่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ รวมถึงธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงเช่นกัน โดยธนาคารกลางอังกฤษจะเริ่มการประชุมในวันนี้

ในวันพฤหัสบดี สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ซื้อขายในลอนดอนลดลง 0.4% เป็น 89.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ลดลง 0.3% เป็น 82.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 20:39 น. ET (00:39 GMT)

อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโดยจะชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจในที่สุด อัตราดอกเบี้ยที่สูงยังจำกัดความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะความต้องการน้ำมันเบนซิน

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในวันพฤหัสบดี ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบในต่างประเทศในปีนี้ตกต่ำลงเนื่องจากการนำเข้าน้ำมันมีราคาแพงขึ้น

ความกลัวต่อแนวโน้มเหล่านี้ได้ดึงราคาน้ำมันลงจากระดับสูงสุดประจำปีที่มีในช่วงสงครามรัสเซีย ยูเครน ซึ่งมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลดราคาน้ำมันได้ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยน้ำมันดิบ เนื่องจากทำเนียบขาวได้ออกคำสั่งให้เบิกถอนน้ำมันออกจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง

แต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบของรัสเซียหยุดชะงักได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจเด้งกลับ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศระดมกำลังทหารบางส่วนในสัปดาห์นี้เพื่อ "ผนวก" ดินแดนยูเครนบางส่วน

โดยการรุกรานยูเครนครั้งแรกของรัสเซียทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากผู้บริโภครายใหญ่ในยุโรปและเอเชียต้องพึ่งพามอสโกในการจัดหาวัตถุดิบ ซึ่งสงครามที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นนั้นได้ทำให้อุปทานตึงตัวและอาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นอีกครั้ง

และฤดูหนาวที่เลวร้ายของยุโรปคาดว่าจะกระตุ้นความต้องการน้ำมันดิบ เนื่องจากหลายประเทศเปลี่ยนไปใช้ น้ำมันทำความร้อน แทน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย