🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ราคาน้ำมันไต่ขึ้นสูงขึ้น ก่อนการประชุม OPEC+

เผยแพร่ 05/09/2565 07:14
อัพเดท 05/09/2565 08:52
© Reuters.
LCO
-
CL
-

โดย Ambar Warrick

Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยฟื้นตัวสร้างระดับใหม่หลังจากขาดทุนอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนรอรายละเอียดเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ที่อาจเกิดขึ้นจากการประชุมในช่วงบ่ายของวันนี้

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ซื้อขายในลอนดอนเพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 94.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 88.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 20:08 น. ET (00:08 น. ET)

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงระหว่าง 6 ถึง 8 ดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบอย่างรุนแรง ความกลัวของนักลงทุนยังคงอยู่ที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อในสหรัฐฯ เนื่องจาก ธนาคารกลาง ได้เริ่มการดำเนินการนโยบายกระชับการเงิน

รายงานระบุว่าสหรัฐฯ และอิหร่านเข้าใกล้การฟื้นคืนข้อตกลงนิวเคลียร์แล้ว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงด้วยแนวโน้มอุปทานล้นตลาด วอชิงตันส่งสัญญาณเมื่อวันศุกร์ว่ามีความกระตือรือร้นที่จะทำข้อตกลงกับเตหะราน เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูง

ความสนใจตอนนี้หันไปที่องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ซึ่งจะ ประชุมกันในภายหลังวันนี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะลดอุปทานหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มพันธมิตรได้ส่งสัญญาณว่าจะลดการผลิตเพื่อรองรับราคา แม้ว่าจะมีสมาชิกหลายรายผลิตต่ำกว่าโควตารายวันก็ตาม

แต่มีรายงานว่ากลุ่มพันธมิตรอาจจะคงการผลิตไว้ไม่เปลี่ยนแปลง หรือใช้การลดอุปทานเพียงเล็กน้อย แม้จะมีความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันดิบที่ชะลอตัว แต่อุปทานก็ดูเหมือนจะตึงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัสเซียที่วางแผนจะลดการส่งออกน้ำมันดิบ

มอสโกยังปิดการจ่ายก๊าซไปยังยุโรป เป็นความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้วิกฤตพลังงานรุนแรงขึ้นในยูโรโซนและเป็นแรงหนุนด้านอุปสงค์

สัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขการเบิกถอน น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าความต้องการน้ำมันเบนซินในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังดีขึ้นหลังจากชะลอตัวในครึ่งปีหลัง

แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบ เนื่องจากการล็อกดาวน์ที่มาจากโควิด19 และการขาดแคลนพลังงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนต้องหยุดชะงักในปีนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย