โดย Ambar Warrick
Investing.com – ราคาทองแดงและโลหะอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ร่วงลงเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของจีนที่เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ในขณะที่ราคาทองคำร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยหันไปหาเงินดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง ลดลง 0.4% เป็น 3.859 ดอลลาร์ต่อปอนด์เมื่อเวลา 21:28 น. ET (01:28 GMT) ส่งผลให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์เนื่องจากความกลัวว่าอุปสงค์ของจีนจะชะลอตัวลงมากขึ้น
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกร่วงลงหลังจากตัวเลข ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ที่อ่อนแอเกินคาดทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการจะซบเซาจากผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของโลก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโต 3.8% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.6% และยังต่ำกว่าตัวเลขที่อ่านได้ในเดือนมิถุนายนที่ 3.9% โดยตัวเลขที่ต่ำลงนั้นเป็นผลกระทบที่มาจากการล็อกดาวน์จากโควิด19 หลายครั้งทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีนี้
ยอดค้าปลีก จากจีนยังคงอ่อนตัวกว่าที่คาดไว้ ความกังวลต่อเศรษฐกิจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางจีนได้ปรับลด อัตราดอกเบี้ย เหนือความคาดหมาย ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันอย่างมากต่อธนาคารกลางในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ราคาอะลูมิเนียม ลดลง 1.2% ในวันจันทร์ ขณะที่ นิกเกิล และ สังกะสี ลดลง 4.6% และ 0.4% ตามลำดับ
แต่กลุ่มบริษัทขุดแร่รายใหญ่ BHP (NYSE:BHP) กล่าวว่า คาดว่าอุปสงค์ของจีนจะยังฟื้นตัว แม้จะสวนทางกับแนวโน้มในปัจจุบันก็ตาม บริษัทขุดแร่ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ตั้งใจที่จะเพิ่มการผลิตแร่เหล็กและทองแดงโดยคาดหวังว่าความต้องการโลหะจะฟื้นตัว
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันอังคาร โดยยังขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยหันไปหาค่าเงินดอลลาร์
ราคาสปอตทองคำ ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1,779.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.2% เป็น 1,794.1 ดอลลาร์ ตราสารทั้งสองร่วงประมาณ 1% ในวันจันทร์ ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ พุ่งขึ้น 0.7%
ผลตอบแทนจากทองคำซึ่งถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ได้รับความนิยม ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ลดลงอย่างมาก ท่ามกลางความผันผวนในตลาดโลหะ
ในทางตรงกันข้าม แนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะสูงขึ้นนั้นทำให้เทรดเดอร์หันไปนิยมถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย