Investing.com – ในวันนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเกือบ 3 สัปดาห์ ผลจากความกลัวว่าอุปทานของโลกจะเกิดการชะงักมากขึ้นเหตุจากความขัดแย้งในยูเครนมีความรุนแรงมากขึ้น และยังมีข่าวว่าอาจจะมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากประเทศตะวันตก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์หรือ 1.0% ที่ 112.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 04.45 GMT หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ 113.80 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ หรือ 0.9% สู่ 107.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 108.55 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม
โดยน้ำมันดิบทั้งสองได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2.5% ในวันพฤหัสบดีก่อนหยุดอีสเตอร์ เนื่องจากมีข่าวเรื่อง EU อาจจะห้ามใช้น้ำมันจากรัสเซีย
แม้ EU จะกล่าวว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการร่างมาตรการที่จะคว่ำบาตรเรื่องพลังงาน แต่ฝั่งเยอรมนีไม่ได้ให้การสนับสนุนในทันที
ความคิดเห็นเกิดขึ้นก่นอที่สถานการณ์ในยูเครนจะตึงเครียดและมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยทหารยูเครนปฏิเสธที่จะถอยในเมืองมาริอูโปล ส่งผลให้ท่าเรือมีความเสียหายเป็นอย่างมาก รัสเซียเรียกปฏิบัติการการเข้ายึดยูเครนว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" และกล่าวว่ากองกำลังรัสเซียยึดได้หลายเมืองในยูเครนแล้ว
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศได้กล่าวเตือนว่าการคว่ำบาตรหรือการหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันจากรัสเซียจะส่งผลให้น้ำมันของรัสเซียที่ผลิตได้ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้นไม่ถูกส่งออกนอกประเทศในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ตามการรายงานข่าวของรอยเตอร์ส
โดยตัวเลขการผลิตน้ำมันของรัสเซียได้ลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน โดยในครึ่งเดือนแรกของเดือนรวมเดือนมีนาคมลดลง 7.5% สำนักข่าว Interfax รายงานเมื่อวันศุกร์
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC และ OPEC+ ที่รวมถึงประเทศรัสเซีย ได้ปฏิเสธการเพิ่มผลผลิตตามคำร้องของตะวันตก
รายงานของโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าผลผลิตของโอเปกในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเพียง 57,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 28.56 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยผลิตน้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งภายใต้ข้อตกลง OPEC+ ไว้ 253,000 บาร์เรลต่อวัน
ความตึงตัวของตลาดพลังงานยังเพิ่มขึ้นเมื่อลิเบียได้ระงับการผลิตน้ำมันจากแหล่ง El Feel ในวันอาทิตย์ แหล่งข่าวแจ้งว่าการส่งออกถูกระงับเนื่องจากกลุ่มผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรี Abdulhamid al-Dbeibah ได้เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงขึ้น มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นแม้จะมีข้อจำกัดด้านแรงงานและแหล่งพลังงาน