Investing.com - ราคาน้ำมันแทบไม่มีความเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย หลังจากเมื่อวานพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับราคาที่สูงสุดในรอบสี่เดือน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นเพียง 0.01% ที่ระดับ $58.63 ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 22.37 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (02:37 GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ของทั่วโลกปรับขึ้น 0.1% อยู่ที่ $67.27 ต่อบาร์เรล
เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสู่กรอบราคาสูงสุดในรอบสี่เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายการตัดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงเป็นสัญญาณทางบวกที่บ่งชี้ว่าปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาดกำลังเริ่มลดลงแล้ว
อ้างอิงจากรายงานตลาดน้ำมันรายเดือน โอเปกรายงานว่าผลผลิตน้ำมันดิบประจำเดือนกุมภาพันธ์ของประเทศกลุ่มโอเปกได้ลดลงไปราว 221,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) จากเดือนมกราคม ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 30.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน
การตัดกำลังการผลิตของโอเปกในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนมากมาจากเวเนซูเอลา ซึ่งขณะนี้กำลังประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเมือง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อีกด้วย
ขณะนี้ผู้ลงทุนเริ่มหันไปสนใจรายงานประจำเดือนของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่จะเผยแพร่ในช่วงครึ่งหลังของวันนี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดหวังว่ารายงานดังกล่าวจะเน้นย้ำถึงความน่ากังวลต่อปัญหาอุปสงค์น้ำมัน