Investing.com - รอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทาน จากการที่บริษัทพลังงานเริ่มปิดการผลิตในอ่าวเม็กซิโก เพราะมีคาดการณ์ว่าพายุเฮอริเคนอาจเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์
"กลุ่มผู้ค้าพลังงานเป็นตัวผลักดันราคาน้ำมันดิบให้สูงขึ้น โดยคาดว่าจะมีการหยุดชะงักของการผลิตในอ่าวเม็กซิโกและจากความคาดหวังว่า OPEC+ อาจต่อต้านการเพิ่มผลผลิตเนื่องจากสถานการณ์โควิดล่าสุดส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ" เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวกับรอยเตอร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 98 เซนต์หรือ 1.4% สู่ 72.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0542 GMT หลังจากร่วงลง 1.6% ในวันพฤหัสบดี
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 93 เซนต์หรือ 1.4% สู่ 68.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 1.4% ในวันพฤหัสบดี
สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบรนท์กำลังจะเพิ่มขึ้นเกือบ 11% ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดมากที่สุดนับตั้งแต่มิถุนายน 2020 ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เกือบ 10% ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020
บริษัทต่าง ๆ เริ่มนำพนักงานออกจากแท่นผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกในวันพฤหัสบดี โดย BHP และ BP (NYSE: BP) กล่าวว่า พวกเขาได้เริ่มหยุดการผลิตที่แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งแล้ว เนื่องจากพายุในทะเลแคริบเบียนคาดว่าจะพัดผ่านอ่าวในช่วงสุดสัปดาห์นี้
การผลิตนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกคิดเป็น 17% ของการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ และ 5% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติแห้ง มากกว่า 45% ของกำลังการกลั่นทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ง
โอกาสที่อุปทานในสหรัฐจะขาดหายไปช่วยพลิกฟื้นราคาน้ำมันจากการร่วงลงในวันพฤหัสบดี ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากผลผลิตที่เพิ่มกลับมาที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของเม็กซิโกหลังจากเกิดเพลิงไหม้ร้ายแรง
ANZ Research ระบุในรายงานว่า "ตลาดอาจมีความกังวลมากขึ้น โดยคาดว่าพายุที่กำลังก่อตัวในแคริบเบียนจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่มีกำลังแรงและอาจสร้างความเสียหายในอ่าวเม็กซิโกและเท็กซัสในต้นสัปดาห์หน้า"
ราคาน้ำมันและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ในวันพฤหัสบดีก็ถูกกดดันจากความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดด้วยเช่นกัน ในเรื่องที่เฟดจะเดินหน้าในการลดสินทรัพย์ โดยแวนดาน่า ฮารี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของ Vanda Insights (NASDAQ:VNDA) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนดังกล่าวน่าจะคงอยู่จนกว่าจะมีคำปราศรัยของประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ในวันนี้
นักวิเคราะห์คาดว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์จะเป็นปัจจัยสำคัญในวันนี้ เนื่องจากตลาดคาดหมายว่าพาวเวลล์อาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแผนลดการซื้อพันธบัตรในไตรมาสที่สี่
วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Commonwealth Bank กล่าวว่า "หากเฟดลดสินทรัพย์เร็วกว่าที่คาด เราคิดว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และนั่นจะสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ"