โดย Detchana.K
Investing.com - บมจ.ไทยออยล์เปิดเผยนว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรนอกกลุ่ม ได้ร่วมตกลงเพิ่มกำลังการผลิต จากเดิมได้ตกลงลดกำลังการผลิตลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอาซุดิอาระเบียได้คาดว่าอัตราการลดระดับการผลิตของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ที่ 8.1-8.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่และตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อได้มากกว่า 13 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500,000 คนทั่วโลกแล้ว ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจในเวลานี้
อัตราการการใช้น้ำมันดิบของโรงกลั่นฯ ในประเทศจีนในเดือนมิ.ย.ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขึ้นมาแตะระดับ 14.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของประเทศ โดยเป็นผลมาจากการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะตวามต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันเบนซินของประเทศจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ส่วนราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคปรับลด หลังโรงกลั่นฯ ในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ปรับลดกำลังการผลิตลง ประกอบกับมีโรงกลั่นฯ ปิดซ่อมบำรุงในไต้หวัน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันทรงตัวในวันนี้ บรรยากาศการซื้อขายปกคลุมไปด้วยความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน จากการที่โรคโควิด-19ยังคงระบาดหนักในหลายประเทศ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับเพียงเล็กน้อย 1 เซนต์ อยู่ที่ 40.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ อยู่ที่43.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล