โดย Detchana.K
Investing.com - บมมจ.ไทยออยล์เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2 หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 7.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 531.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล
กลุ่มโอเปกคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2564 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2563 จะปรับลดลงประมาณ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
กลุ่มโอเปกพลัส จะทำการปรับลดกำลังการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน ส.ค. ถึง ธ.ค. 63 หลังทำการปรับลดกำลังการผลิตกว่า 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงทั่วโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในไต้หวันเกิดเหตุเพลิงไหม้และยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ปกติ ท่ามกลางน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงกว่า 3.6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังน้ำมันดีเซลคงคลังประเทศญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางเหตุเพลิงไหม้ของโรงกลั่นในไต้หวัน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าราคาน้ำมันปรับลดลงในวันนี้หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรรวมถึงรัสเซีย เห็นชอบที่จะปรับตัวเลขการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ลดลง 13 เซนต์ อยู่ที่ 43.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 18 เซนต์ อยู่ที่ 41.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0015GMT
ห้ามพลาด
♦การประชุมโอเปกไม่มีเซอร์ไพรส์ แต่น้ำมันจะไม่เพิ่มมาในตลาดมากเท่าที่คาด
กองทุนน้ำมัน Invesco DB Oil Fund (NYSE: อัพเดตความเคลื่อนไหวกองทุน DBO)