โดย Detchana.K - คุณวรุต รุ่งขำ นักวิเคราะห์จาก YLG BULLION ระบุว่า ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในช่วงต้นราคาทองคำจะเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแรงขายทำกำไรจากความต้องการเงินสดเพื่อโยกเงินเติมมาร์จิ้น และชดเชยผลขาดทุนในตลาดหุ้นจนส่งผลให้ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดีราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงในเวลาต่อมาหลังสหรัฐเผยยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น 45,255 รายเมื่อในวันศุกร์ โดยมีถึง 34 รัฐที่จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19เพิ่มขึ้นราว 5%หรือมากกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน ส่วนค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 41%เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้วสถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐเท็กซัสออกคำสั่ง “จำกัด”
การดำเนินธุรกิจและการให้บริการบางอย่าง, รัฐวอชิงตัน “ระงับ”แผนการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ระยะที่ 4 และซานฟรานซิสโก เลื่อนการเปิดธุรกิจออกไปเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นนั่นสร้างความวิตกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยิ่งช้าลง ทำให้มีแรงช้อนซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขณะที่นักลงทุนเริ่มขายสกุลเงินดอลลาร์ออกมาจนเป็นปัจจัยหนุน
ปัจจัยทางเทคนิค
หลังจากราคาทิ้งตัวลง มีแรงซื้อดันให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่ง เบื้องต้นหากราคาสามารถสร้างฐานเหนือแนวรับ 1,764-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แข็งแกร่ง และเมื่อราคาจะพยายามทดสอบแนวต้านโซน 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปโซน 1,790-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดเดือน ก.พ.,ต.ค. ปี2012)
กลยุทธ์การลงทุน
เปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,764-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณ 1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากรับความเสี่ยงได้น้อย หรือ หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจต้องพิจารณาปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold
ส่วนราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION