โดย Sonali Paul
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันนี้หลังมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันหลายรายได้รักษาคำมั่นที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันที่เริ่มหวนกลับคืนมาจากการใช้รถใช้ถนนหลังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส (WTI) (CLc1) ทะยานขึ้น 2.3% หรือ 75 เซนต์ เท่ากับ $34.00 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0057 GMT โดยเมื่อวานนี้ไม่มีราคาปิดของ WTI เนื่องจากวันหยุดเพื่อรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ (LCOc1) ดีดขึ้น 0.7% หรือ 23 เซนต์ เท่ากับ $35.76 ต่อบาร์เรล บวกขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่ปรับตัวขึ้น 1.1%
ตลาดน้ำมันพลิกฟื้นหลังรัสเซียได้รายงานว่ากำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียลดลงใกล้เท่ากับเป้าหมายที่กำหนด 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายหลักอื่น ๆ หรือที่เรียกรวมกันเป็นเครือ OPEC+
Daniel Hynes นักวางแผนกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก ANZ ให้ความคิดเห็นไว้ว่า "ดูเหมือนว่าการลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย"
ทั้งนี้กลุ่ม OPEC+ จะมีกำหนดการประชุมครั้งถัดไปในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเพื่อหารือด้านลดกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงต่อไปเพื่อหนุนราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ยังคงต่ำกว่าราคาเมื่อช่วงต้นปีถึง 45% โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ได้ตกลงกันไว้ว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเกือบ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน