โดย Barani Krishnan
Investing.com - ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
ช่วงที่ผ่านมานี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีความสัมพันธ์กับจีนที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร แต่เมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันสหรัฐก็ได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของจีนและทำให้ราคาสัญญามุ่งหน้าสู่ $30 ต่อบาร์เรล
เมื่อวันศุกร์ สัญญา WTI ปิดบวก $1.87 หรือ 6.8% เท่ากับ $29.43 ต่อบาร์เรล หลังจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือนเมษายนออกมาสูงขึ้น 3.9% จากเดือนมีนาคมที่ลดลง 1.1%
สัญญาเบรนท์ ไต่ขึ้น $1.37 หรือ 4.4% และปิดอยู่ที่ $32.50 ต่อบาร์เรล
สำหรับสัปดาห์ที่แล้วสัญญา WTI ได้บวกขึ้นมา 19% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ทะยานขึ้น 25%
สัญญาเบรนท์ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ 5% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่บวกขึ้น 17%
ทว่าสาเหตุที่เมื่อวันศุกร์ราคา WTI สามารถมุ่งหน้าสู่ระดับ $30 ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงหนุนจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนที่ฟื้นตัวขึ้น
และเป็นหนึ่งวันให้หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่พอใจกับความล้มเหลวของจีนในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส และอาจส่งผลให้เขาตัดสินใจตัดสัมพันธ์กับจีนด้วย
ราคา WTI ที่ $30 ต่อบาร์เรลถือเป็นชัยชนะของทรัมป์ หลังจากที่เขามีส่วนเกลี้ยกล่อมให้กลุ่ม OPEC, รัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นทั่วโลกลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อหนุนหลังอุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐให้อยู่รอดท่ามกลางการระบาด
ปฏิทินตลาดพลังงานในสัปดาห์นี้
วันจันรท์ที่ 18 พฤษภาคม
ตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก Genscape Cushing (ตัวเลขภาคเอกชน)
วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐรายสัปดาห์จาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา
วันพุธที่ 20 พฤษภาคม
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐรายสัปดาห์ จาก EIA
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม
ปริมาณ ก๊าซธรรมชาติคงคลัง รายสัปดาห์ จาก EIA
วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์จาก Baker Hughes
ตลาดโลหะมีค่า
ราคาทองคำโลกทะลุระดับสำคัญที่ $1,750 ต่อออนซ์เมื่อวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดในรอบเจ็ดปีครึ่งขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนหลังจากยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐออกมาย่ำแย่
Ed Moya นักวิเคราะห์จาก OANDA ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐยังคงออกมาในแง่ลบ"
“ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนเมษายนนั้นทรุดตัวลงมาก ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจจะเกิดความเสียหายอย่างถาวร รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้จึงยังคงหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ"
ราคาทองคำโลก ไต่ขึ้น $13.62 หรือ 0.8% เท่ากับ $1,743.62 เมื่อเวลา 14:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (18:20 GMT) จากก่อนหน้านี้ที่พุ่งสูงถึง $1,751.54 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2012
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า สำหรับการส่งมอบเดือนมิถุนายนปิดบวก $12.25 หรือ 0.7% เท่ากับ $1,753.15 โดยไต่ขึ้นไประหว่างวันสูงสุดถึง $1,760.55 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน
ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ประกอบไปด้วยยอดค้าปลีกที่ลดลง 16.4% และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนเมษายนที่ลดลง 11.4%
ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว นายลาร์รี คุดโลว์ ได้กล่าวไว้เมื่อวันศุกร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะทิ้งดิ่งอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจภายหลังจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
ทั้งนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่ย่ำแย่ลงอีกด้วย
* คำจำกัดความรับผิดชอบ: Barani Krishnan ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือถือครองสินค้าโภคภัณฑ์ใด ๆ ที่เขากล่าวถึง