โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย หลังจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่สูงขึ้น เกือบ 10 ล้านบาร์เรล สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 24 เมษายน
ตัวเลขล่าสุดที่ 9.98 ล้านบาร์เรลนั้นต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์สัปดาห์ก่อนหน้านี้ของ API ที่คาดว่าจะสูงขึ้น 13.226 ล้านบาร์เรล ส่วนตัวเลขจากสำนักงานสารสนเทศพลังงาน (EIA) คาดว่าจะสูงขึ้น 15 ล้านบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 1.35% เท่ากับ $23.34 ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 21:44 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:44 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 12.40% เท่ากับ $13.87 ต่อบาร์เรล
ราคาสัญญาทั้งสองปรับตัวขึ้นจากความผันผวนเมื่อวานนี้ที่ทำให้สัญญา WTI ดิ่งลงถึง 20%
ผู้ลงทุนบางส่วนเริ่มมีความคาดหวังว่าอุปสงค์น้ำมันจะค่อย ๆ ฟื้นกลับมา เนื่องจากบางประเทศเริ่มทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และพยายามที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง
Bjornar Tonhaugen จาก Rystad Energy ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่กระเตื้องขึ้นจะหนุนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ และอาจช่วยชะลอปัญหาพื้นที่กักเก็บน้ำมันเต็มออกไปอีกในอนาคต”
ทว่าเขาได้เตือนแรงกดดันที่ยังคงมีต่ออุปสงค์น้ำมันดิบด้วย
“การเปิดภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐอาจหนุนราคาน้ำมันได้ชั่วคราวให้ผู้ลงทุนได้โล่งอกขึ้นมาบ้าง แต่พวกเราไม่คิดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นได้นาน ดังนั้นราคาน้ำมันน่าจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 20 USD ต่อบาร์เรลในไตรมาสที่สอง และราคาน้ำมันอาจดิ่งลงต่ำที่สุดสักระยะเวลาหนึ่งในเดือนพฤษภาคม”