Investing.com-- ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในตลาดเอเชียวันนี้และคาดว่าจะการขาดทุนรายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในจีนที่เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นก็ได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นบ้างในวันพฤหัสบดี หลังรายงานสินค้าคงคลังสหรัฐที่แสดงให้เห็นถึงตัวเลขน้ำมันในคลังที่ลดลงส่งผลให้ตลาดตึงตัวมากขึ้น แต่ราคายังคงขาดทุนรายสัปดาห์หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่น่าผิดหวังเมื่อต้นสัปดาห์นี้
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะหมดอายุในเดือนกันยายน ลดลง 0.5% เหลือ 84.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.6% เหลือ 80.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00:26 ET (04:26 GMT)
สัญญาทั้งสองฉบับลดลงระหว่าง 0.2% ถึง 0.6% ในสัปดาห์นี้
ความกังวลด้านอุปสงค์ของจีนมีมากกว่างสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซาของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ตามด้วยตัวเลขการเติบโตที่ชะลอตัวเกินคาดในไตรมาสที่สอง
รายงานเมื่อข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าการนำเข้าน้ำมันของจีนลดลงในเดือนมิถุนายน
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอส่งผลเช่นกัน ในขณะที่การประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์แสดงให้เห็นว่าแผนการสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใด ๆ เพิ่มเติมยังมีน้อยมาก
ความเชื่อมั่นที่มีต่อจีนยังถูกบั่นทอนอีกจากรายงานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ที่แสดงว่าสหรัฐฯ กำลังวางแผนการจำกัดการค้าที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคเทคโนโลยีของประเทศ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ดึงดูดมาตรการตอบโต้จากปักกิ่ง การเก็งกำไรเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังทำให้ทัศนคติต่อจีนแย่ลงไปอีก เนื่องจากทรัมป์ยังคงรักษานโยบายกีดกันทางการค้าไว้เป็นส่วนใหญ่
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าเขาจะผลักดันให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจประกาศถึงอุปทานที่สูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ตลาดที่ตึงตัวมากขึ้นและความหวังในการหั่นอัตราดอกเบี้ยช่วยหนุนน้ำมันได้บ้าง
แต่ความคาดหวังของตลาดน้ำมันที่ตึงตัวขึ้นในระยะสั้นก็ช่วยสนับสนุนน้ำมันดิบได้บ้าง ตัวเลขคงคลัง ของสหรัฐฯ หดตัวเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน เนื่องจากความต้องการการเดินทางและเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน
แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ช่วยหนุนน้ำมันดิบเช่นกัน เพราะสถานการณ์ดังกล่าวนำเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
ส่วนนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรุกรานของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการกำหนดราคาล่วงหน้าในตลาดน้ำมันไม่น้อย