โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินของกลุ่ม OPEC+ และสรุปอัตราการลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.13% เป็น $32.27 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:48 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:48 น. GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.87% เป็น $22.83 ต่อบาร์เรล
การลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยจะลดลงในอัตรา 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงสิ้นปี แล้วจะลดลงในอัตรา 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2021 ถึงเดือนเมษายน 2022 หลังจากนั้นกลุ่ม OPEC+ จะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 10 มิถุนายนเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการขั้นต่อไป
การลดกำลังการผลิตน้ำมันดังกล่าวต่ำกว่าอัตราที่เสนอไปครั้งแรก 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และความคืบหน้าของการตกลงกันครั้งนี้มีความล่าช้าเนื่องจากเม็กซิโกได้ออกมาคัดค้านอัตราการลดกำลังการผลิต
Per Magnus Nysveen หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Rystad Energy ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “อย่างน้อยการตกลงกันครั้งนี้ก็ถือเป็นการบรรเทาสถานการณ์ชั่วคราวให้แก่อุตสาหกรรมพลังงานและเศรษฐกิจโลก” และ “แม้ว่าอัตราการลดกำลังการผลิตจะต่ำกว่าที่ตลาดน้ำมันต้องการ และเป็นเพียงการผลักปัญหาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเกินออกไปเท่านั้น แต่เราได้เลี่ยงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นแล้ว”
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ทวีตอีกด้วยว่าการตกลงกันครั้งนี้เป็น “ข้อตกลงที่ดีสำหรับทุกฝ่าย” และ “จะช่วยเหลือด้านการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมพลังงานหลายแสนตำแหน่งในสหรัฐอเมริกา” เขาเสริมในทวีตต่อมาเมื่อคืนนี้ว่าอุตสาหกรรมพลังงาน“ จะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง”
แต่นักลงทุนบางส่วนยังมีความกังขาเนื่องจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งนี้อาจสายเกินไปที่จะแก้ไขภาวะอุปทานน้ำมันเกินในตลาดน้ำมันขณะนี้