Investing.com - ราคาน้ำมันดิ่งลงในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย หลังคำพูดล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดับความหวังของทั้งสองประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกว่าจะสามารถยุติข้อขัดแย้งทางการค้าได้ในที่สุด
ทั้งราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ต่างก็ดิ่งลง 0.9% สู่ระดับ $61.59 และ 69.80 ต่อบาร์เรลตามลำดับ เมื่อเวลา 12:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:40 GMT)
ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในแดนลบหลังจากนายทรัมป์ออกมาประกาศ ณ ที่ชุมนุมผู้สนับสนุนในรัฐฟลอริดาเมื่อคืนนี้ว่าจีน "ผิดข้อตกลง" ที่เคยเจรจากันไว้
จีนเองก็ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนเช่นกันว่าจะตอบโต้เอาคืน หากสหรัฐฯ ดำเนินตามแผนเพื่อขึ้นภาษีศุลกากรจริงในวันศุกร์นี้
“ตลาดน้ำมันขณะนี้มีความน่ากังวลมาก” นางแวนดานา ฮารี ผู้ก่อตั้ง Vanda Insights ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าขณะนี้มี “ความไม่แน่นอนที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น” จากทั้งการเจรจาทางการค้า, อุปสงค์-อุปทานในประเทศ และสถานการณ์ในอิหร่าน โดย "ความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยอาจผลักดันให้ราคาขับเคลื่อนไปในทิศทางใดก็ได้ และจะเป็นแรงส่งที่ทรงพลังมากกว่าทุกครั้งอีกด้วย"
ทางด้านรายงานประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ก็ได้ระบุว่า ปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดดก่อนวันที่ 3 พฤษภาคมลดลงเกือบ 4 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณน้ำมันจะเพิ่มขึ้นมา 1.2 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้เมื่อห้าสัปดาห์ก่อน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเคยเพิ่มขึ้นมาแล้วเกือบถึง 30 ล้านบาร์เรล และเหล่าผู้ลงทุนภาวะตลาดหมีต่างก็คาดไว้ว่าน้ำมันยังคงมีแนวโน้มขาลงต่อไปอีก
“ปริมาณน้ำมันดิบที่ลดลงล่าสุดนี้ถือว่าเป็นภาวะตลาดกระทิงอย่างแน่นอน จากเดิมที่มีกระแสความคาดหวังว่าปริมาณน้ำมันดิบจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นมากถึง 10 ล้านบาร์เรล" นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ Investing.com นายภารนี กริศนัน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อข้อมูลออกมา
และเขายังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ถือว่าเป็นการ "เติมเชื้อเพลิงให้แก่ภาวะตลาดกระทิง" แม้ว่าปริมาณสิ่งกลั่นคงคลังจะลดลงน้อยกว่าคาดการณ์ก็ตาม