โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันจันทร์ที่ 9 มีนาคมมีดังต่อไปนี้
1. ตลาดน้ำมันสะบักสะบอม
ราคาน้ำมันถล่มลงมากกว่า 30% ซึ่งเป็นขาลงรายวันที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศสงครามการหั่นราคาน้ำมันเต็มรูปแบบเมื่อข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันถูกรัสเซียปฏิเสธเมื่อวันศุกร์
Newswires รายงานว่าซาอุดีอาระเบียมีแผนการที่จะเร่งกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนหน้าด้วยอัตราที่สูงกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่บริษัทรัฐวิสาหกิจของซาอุฯ ก็มีแผนที่จะหั่นราคาน้ำมันประเภทเรือธง Arab Light blend เหลือเพียง $10.25 ต่อบาร์เรลซึ่งต่ำกว่าราคา สัญญาเบรนท์ อย่างมาก
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบสหรัฐฯ อยู่ที่ $32.26 ต่อบาร์เรล ทรุดตัวลง 22% แต่พลิกฟื้นขึ้นมาจากระดับต่ำสุดที่ $27.34 ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์อยู่ที่ $35.91 ต่อบาร์เรล ทรุดตัวลง 20.6%
2. ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่ง, สภาพตลาดน้ำมันกระตุ้นให้เกิดความกังวล
ตลาดโลกทรุดตัวอย่างหนักเนื่องมาจากความกังวลต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาผนวกกับสภาพตลาดน้ำมันที่ย่ำแย่
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้า ปรับลง 1,256 จุดหรือราว 4.9% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ติดลบ 5.0% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวลง 4.8%
ก่อนหน้านี้ตลาดยุโรปได้เปิดตัวในแดนลบมากกว่า 8% เตรียมส่งมอบขาลงรายวันที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 โดยเมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ดัชนี Stoxx ติดลบ 5.9% ส่วนดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรและดัชนี DAX ของเยอรมนีปรับตัวลง 6.2%
เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นจีนได้ปิดลบต่ำสุดเกือบ 4.1% ส่วนดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นทรุดตัวลงถึง 5.4% ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
3. อิตาลีปิดประเทศ, เยอรมนีเริ่มเคลื่อนไหว
อิตาลีได้กักกันประชากรถึง 1 ใน 4 ของประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ซึ่งเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนในไตรมาสแรกจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
คาวมคืบหน้าครั้งนี้ตามมาหลังจากอิตาลีได้สั่งปิดทำการโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีก็ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งแรกเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโรเพื่อเยียวยาบริษัทต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องลดจำนวนชั่วโมงการจ้างงานพนักงาน
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการยืนยันยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งยุโรปและสหรัฐฯ แต่อัตราการติดเชื้อในจีนและเกาหลีใต้กลับเริ่มชะลอตัวลงแล้ว
4. ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง, ราคาทองคำพุ่งขึ้นขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทรุดหนัก
ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ส่วน สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ก็ได้ทะลุระดับ $1,700 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบอายุ 10 ปีก็ทรุดตัวลงอีก 23 จุดสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.47%
ค่าเงินของสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงอย่าง เงินเยนญี่ปุ่น และ เงินฟรังก์สวิส ทะยานขึ้น ส่วน ค่าเงินยูโร ก็พุ่งขึ้นสูงสุดถึง $1.1493 ก่อนที่จะย่อตัวลงมา โดยในระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินยูโรได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จึงยิ่งสร้างความคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับนโยบายทางการเงินให้มีความผ่อนคลายมากขึ้นอีกในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้
Ken Wattret หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝั่งยูโรโซนจาก IHS Markit คาดการณ์ว่าในการประชุมครั้งนี้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 10 จุดและการเพิ่มการซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนเป็นมูลค่า 1 ถึง 2 ล้านยูโร
5. เลบานอนผิดนัดชำระหนี้, ตลาดสินเชื่อทั่วโลกเตรียมรับมือกับการปรับโครงสร้างหนี้
ตลาดสินเชื่อทั่วโลกเตรียมรับมือกับการผิดนัดชำระและการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ หลังจากการประกาศสงครามราคาน้ำมันของซาอุฯ อันเป็นภัยคุกคามทางการเงินของผู้ผลิตหินน้ำมันในสหรัฐฯ ครั้งใหญ่
การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาถือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการผิดนัดชำระครั้งแรกของปีนี้ โดยเลบานอนได้ยุติการชำระหนี้ต่างประเทศและเริ่มเตรียมแผนการปรับโครงสร้างหนี้
นอกจากนี้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทำให้กิจการสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปอย่าง Flybe ทรุดตัวลงอย่างหนัก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อบริษัทที่มีหนี้สินมหาศาลอย่าง Anheuser Busch Inbev (BR:ABI) และบริษัทผู้ดูแลกิจการโรงภาพยนตร์ Cineworld อีกด้วย