รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

จีนซื้อทองคำพุ่ง 30% ในปี 66 เหตุวิตกเศรษฐกิจ-ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์

เผยแพร่ 01/02/2567 18:17
อัพเดท 01/02/2567 17:41
จีนซื้อทองคำพุ่ง 30% ในปี 66 เหตุวิตกเศรษฐกิจ-ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์

InfoQuest - สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานทิศทางอุปสงค์ทองคำประจำปี 2566 ในวันพุธ (31 ม.ค.) ซึ่งระบุว่า จีนซื้อทองคำพุ่งทะยานขึ้น 30% ในปี 2566 เนื่องจากธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าซื้อทองคำเพื่อแทนที่การถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ขณะที่เหล่านักลงทุนก็แสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำหลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย รายงานว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำสุทธิรวมกันทั้งสิ้น 1,037 ตันในปีที่ผ่านมา ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ปี 2493 โดยเป็นรองเพียงแค่ยอดซื้อ 1,082 ตันในปี 2565

ส่วนธนาคารกลางจีนซื้อทองคำสุทธิ 225 ตันในปีที่ผ่านมา ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีข้อมูลของจีน

รายงานระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้หนุนให้หลายประเทศเข้าซื้อทองคำ โดยโปแลนด์ซื้อทองคำ 130 ตันในปีที่ผ่านมา ขณะที่ลิเบียซื้อทองคำ 30 ตัน

ทั้งนี้ หลายประเทศพยายามลดการสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐแล้วเปลี่ยนไปสำรองทองคำแทน หลังจากที่เกิดกรณีสหรัฐและยุโรปอายัดเงินสำรองของรัสเซีย

"สัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดน้อยถอยลง ทั้งที่โดยปกติแล้วเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ประเทศต่าง ๆ นิยมถือไว้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ" นายอิตสึโอะ โทชิมะ นักวิเคราะห์ตลาด ระบุ

กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเหลือ 7.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ เดือนพ.ย. 2566 ซึ่งลดลงประมาณ 10% จากปีก่อนหน้า และลดลงจากตัวเลขที่จีนถือครองหลังรัสเซียบุกยูเครนถึงประมาณ 2.3 แสนล้านดอลล์สหรัฐ

นายสึโยชิ อุเอโนะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสถาบันวิจัยเอ็นแอลไอ (NLI Research Institute) ในญี่ปุ่น ระบุว่า จีนอาจกำลังพยายาม "หลบหลีกอิทธิพลของดอลลาร์สหรัฐและขยายอิทธิพลของเงินหยวน" ในขณะที่จีนกำลังส่งเสริมให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากล

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย