โดย Detchana.K
Investing.com - ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนตัวลง เนื่องจากสหรัฐฯ พบยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ มีคำสั่งให้จีนปิดสถานกงสุลในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ภายใน 72 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ และข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน ทางด้านจีนแถลงตอบโต้ว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายด้านการทูต ขอให้สหรัฐฯ ถอนการตัดสินใจที่ผิดพลาด มิเช่นนั้นจีนจะตอบโต้กลับด้วยความเท่าเทียม
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีหวังเรียกคะแนนเสียงคืน โดยแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และเน้นเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมทั้งแถลงว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก ก่อนจะดีขึ้นได้ในภายหลัง
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2 ล้านบาร์เรล ประกอบกับ โรงกลั่นในอินเดียเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง น้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงและการปรับลดกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงเนื่องจากปัญหาอุทกภัยทางตอนใต้ของจีน
รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันปรับลดลง จากปริมาณสต๊อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มเกินคาด โดย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 6 เซนต์ อยู่ที่ 41.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 4 เซนต์ อยู่ที่ 44.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล