-
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง หลังรัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่
-
จับตาการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจียและการลงมติรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกัน สถานการณ์ COVID-19 และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่าง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามด้วย
-
ตลาดการเงินอาจผันผวนสูงขึ้น หนุนเงินดอลลาร์แข็งค่าระยะสั้น แต่ หากผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกชี้ว่า พรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ตลาดก็พร้อมเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
-
กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 29.85-30.20 บาท/ดอลลาร์
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
-
ฝั่งสหรัฐฯ – การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบของการระบาด COVID-19 โดยทั้งภาคการผลิตและการบริการจะชะลอตัวลง สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและการบริการโดย ISM (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะอยู่ ณ ระดับ 56.5จุด และ 54จุด ตามลำดับ (ดัชนีเกิน 50จุด หมายถึง การขยายตัว) ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 57.5จุด ส่วน PMI ภาคการบริการอยู่ที่ระดับ 55.9จุด ในขณะเดียวกัน ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในเดือนธันวาคม ก็จะเพิ่มขึ้นเพียง 1 แสนราย ลดลงจากที่เพิ่มขึ้นถึง 2.45 แสนรายในเดือนก่อน นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจีย (Georgia Senate Runoffs) 2 ที่นั่ง ซึ่งผลการเลือกตั้งจะกำหนดว่าพรรครีพลับริกันหรือพรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาคองเกรส และจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อาทิ นโยบายการขึ้นภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา หรือ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนานใหญ่
-
ฝั่งยุโรป – ปัญหาการระบาดของ COVID-19 ทั่วยุโรปจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยตลาดคาดว่ายอดค้าปลีก (Retail Sales) ของยูโรโซนในเดือนพฤศจิกายนจะหดตัวราว 4%จากเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.5% นอกจากนี้ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาด COVID-19 ยังส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมกราคม (Sentix Investor Confidence) จะลดลงสู่ระดับ -5.0จุด
-
ฝั่งเอเชีย – ภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังคงสดใส หนุนโดยการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการบริการ สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและการบริการโดย Caixin ในเดือนธันวาคม (ครอบคลุมบริษัทขนาดเล็กและกลางมากกว่าดัชนีที่สำรวจโดยภาครัฐ) ซึ่งจะอยู่ ณ ระดับ 54.5จุด และ 57.5จุด ตามลำดับ (ดัชนีเกิน 50จุด หมายถึง การขยายตัว)
-
ฝั่งไทย – สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ สะท้อนผ่านการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือนธันวาคม อยู่ที่ระดับ -0.4% นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence) ก็มีแนวโน้มลดลงจากระดับ 52.4จุด ในเดือนก่อนหน้า เหลือ 50จุด