3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้: Johnson & Johnson, Citigroup, Schlumberger

เผยแพร่ 13/04/2563 14:56

ตอนนี้ดูเหมือนว่าพาดหัวข่าวอย่างเช่น “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008” ได้กลายเป็นข่าวเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ Good Friday ที่ผ่านมาดัชนี S&P 500 สามารถวิ่งกลับขึ้นมา 26 % จากจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคมได้สำเร็จ

 

สาเหตุของแรงขาขึ้น 26% ในครั้งนี้เกิดมาจากภาพรวมสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในหลายๆ ประเทศดีขึ้น รัฐบาลเริ่มตั้งสติได้ มีการจัดการเป็นขั้นเป็นตอน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้นักลงทุนยังหวังให้เหล่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้โดยเร็วที่สุด

 

อย่างไรก็ตามสัญญาณบวกเหล่านี้กำลังจะต้องผ่านมรสุมความไม่แน่นอนอีกครั้ง เพราะในสัปดาห์นี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มเข้าสู่ฤดูการรายงานผลประกอบของบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งนักลงทุนน่าจะคาดการณ์ได้ว่ารายงานตัวเลขในครั้งนี้จะเป็นตัวเลขที่ได้รับผลกระทบมาจากโควิด-19 

 

สิ่งที่นักลงทุนจะมองหาในรายงานผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ๆ ในครั้งนี้คือผลกระทบที่เกิดจะรุนแรงแค่ไหน ตัวเลขที่ออกมาจะสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้หรือไม่ และในอนาคตบริษัทเหล่านี้จะมีทิศทางในการบริหารองค์กรอย่างไรต่อไป เหตุการณ์โควิด-19 จะนำไปสู่การถดถอยทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่ หุ้น 3 ตัวต่อไปนี้คือบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงซึ่งเรากำลังจับตามองอยู่และทั้ง 3 ตัวมาจากอุตสาหกรรมที่ต่างกันแต่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้เหมือนกัน

 

1. Johnson & Johnson

 

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (NYSE: JNJ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “เจแอนด์เจ” เป็นบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภคจะรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2020 ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดในวันอังคารที่ 14 เมษายน ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาหุ้นเจแอนด์เจต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการโต้เถียงระหว่างบริษัทกับหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับส่วนประกอบที่ใช้ในแป้งสำหรับเด็ก เป็นไปได้ว่าข่าวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบมาถึงอัตราการเติบโตทางตัวเลขของรายงานผลประกอบการบริษัทในครั้งนี้

 

แต่เมื่อวิกฤตไวรัสโควิด-19 เข้ามาทำให้การโต้เถียงนี้ต้องพักยกไปก่อน ตอนนี้ภาพรวมของหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและเจแอนด์เจก็ได้รับข่าวดีนี้ด้วยเช่นกันทำให้นักลงทุนพิจารณาว่าหุ้นเจแอนด์เจถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ดีตัวหนึ่งในบริษัทประเภทนี้

 



 

 

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหุ้นบริษัทเจแอนด์เจมีราคาปิดอยู่ดี $141.23 ปรับตัวลดลงมา 3% ตลอดทั้งปี 2020 เมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวลดลงมา 14% นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเจแอนด์เจจะมีการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $2.05 และมียอดขายเฉลี่ยทั้งหมด $1,986 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ในมุมมองของทาง Investing.com เราเชื่อว่าบริษัทที่อยู่มานานอย่างเจแอนด์เจจะสามารถเอาชนะปัญหาทางด้านกฎหมายไปได้และจะเป็นอีกครั้งที่บริษัทได้พิสูจน์ให้นักลงทุนได้เห็นถึงคุณภาพและโอกาสเติบโตในการปันผลระยะยาว เจแอนด์เจมีประสบการณ์ ความรู้และความชำนาญมาอย่างยาวนานเพราะไม่เช่นนั้นคงไม่อาจปันผลได้ต่อเนื่องยาวนานมา 55 ปีติดต่อกัน ปัจจุบันเจแอนด์เจมีอัตราการปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ $0.95 มีอัตราการเติบโต 7% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นเปอร์เซนต์การปันผลในแต่ละปีอยู่ที่ 2.69% 

 

2. Citigroup

 

หนึ่งในธนาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างซิตี้กรุ๊ป (NYSE:C) จะรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดในวันที่ 15 เมษายน การรายงานผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปถือว่ามีความสำคัญต่อตลาดมากเพราะนักลงทุนจะสามารถทราบปัญหาทางการเงินของผู้บริโภคและประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาได้ 

 

หุ้นซิตี้กรุ๊ปได้รับประโยชน์จากรัฐนิวยอร์กที่ให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและยังได้ปรับพอร์ตของบริษัทอีกด้วย

 


 

 

ในปีนี้หุ้นซิติี้กรุ๊ปร่วงลงมา 40% จากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ที่อาจจะนำพาเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่การถดถอยทางเศรษฐกิจระยะยาวได้ อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่แล้วหุ้นซิตี้กรุ๊ปก็ยังสามารถกลับมาได้ด้วยการปรับตัวขึ้นมากกว่า 7% ในวันพฤหัสบดี มีราคาปิดอยู่ที่ $47.41 นักวิเคราะห์คาดว่าซิตี้กรุ๊ปอาจจะสามารถมีตัวเลขปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ $1.90 และมีตัวเลขกำไรทั้งหมดอยู่ที่ $1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ในรายงานผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปครั้งนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับอัตราความสามารถในการทำกำไรของบริษัทและเปอร์เซนต์เปรียบเทียบของผลกำไรที่ทำได้ในไตรมาสนี้เพราะในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาทั้งสองตัวเลขซิตี้กรุ๊ปทำออกมาได้ดีเสมอ

 

3. Schlumberger

 

จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงในไตรมาสที่ 1 มากถึง 30% เพราะสงครามราคาน้ำมันของประเทศมหาอำนาจทางน้ำมันอย่างซาอุดิอาระเบียสร้างผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตน้ำมันไปทั่วโลกและบริษัทอย่างสลัมเบอร์เจอร์ (NYSE:SLB) ผู้ทำธุรกิจบริการขุดเจาะน้ำมันก็ไม่มีข้อยกเว้น สลัมเบอร์เจอร์จะรายงานผลประกอบการในวันศุกร์ที่ 17 เมษายนก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด

 

สลัมเบอร์เจอร์มีธุรกิจอยู่ใน 120 ประเทศทั่วโลกทำตั้งแต่เป็นผู้ขุดเจาะน้ำมันจนถึงเป็นผู้ให้บริการอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานกว่าทศวรรษ เพราะสงครามราคาน้ำมันดิบที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องเป็นต้องลดงบให้การค้นหาแหล่งน้ำมันเพื่อเสริมสภาพคล่องรับมือกับเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะยาว

 




 

ในปีนี้หุ้นสลัมเบอร์เจอร์ร่วงลงมาประมาณ 60% แล้วจากสงครามราคาน้ำมัน ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีกราฟมีราคาปิดอยู่ที่ $16.47 หลังจากที่ปรับตัวลดลงมา 5% ภายในวันนั้น นักวิเคราะห์คาดว่าสลัมเบอร์เจอร์จะสามารถมีตัวเลขปันผลกำไรต่อหุ้นได้ $0.26 และมีตัวเลขผลกำไรรวมอยู่ที่ $760 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

รายงานผลประกอบการของบริษัทจะทำให้นักลงทุนเห็นผลกระทบที่บริษัทต้องแบกรับจากสงครามราคาน้ำมันและสิ่งที่บริษัทคาดว่าจะดำเนินการต่อไปในอนาคต ตอนนี้อัตราส่วนปันผลของเงินตอบแทนของสลัมเบอร์เจอร์ถูกประเมินเอาไว้ว่าสูงมากที่ 11.57% คิดเป็นการปันผลรายปี $2 ต่อหุ้น

 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย