(จริงๆแล้วคิดว่าปรับนำมาใช้ในธุรกิจและหลายอย่างที่เราจะลงมือทำ ลองเอามาเปรียบเทียบดูครับ) ขอยกตัวอย่าง สำหรับการเทรด นะครับ
3 step ที่ต้องทำทีละขั้น
Step 1. อยู่ในตลาดให้ได้นานที่สุด
เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝน จนชำนาญ หาทางเอาตัวรอดในตลาดให้ได้ ขอแค่หน้าตักไม่ติดลบเป็นใช้ได้ อย่าเพิ่งโลภ over trade เห็นคนอื่น ได้เท่านั้นเท่านี้ ไม่ต้องไปสนใจ follow แผนเราไป ฝึกตนเองอย่าให้เสียนิสัย
ใจความ Step 1 คือ อยู่ในตลาดให้นานให้ได้จริงๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด
Step 2. เริ่มทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อเราอยู่รอดในตลาดได้นาน ฝึกฝนจนชำนาญ เราจะเริ่มพบวิธีการที่เราถนัด อยากให้จดจำไว้ และบันทึกเป็นกฏเป็นมาตรฐานไปเลย วิธีการอื่นๆ ที่เราไม่คุ้นไม่ต้องสนใจ มันไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด
ใจความ Step 2 คือ ค้นพบวิธีที่เป็นสิ่งที่เราถนัด ทำตามแผนและวิธีเราที่วางไว้ให้ได้ “ทุกๆครั้ง” และวิธีนั้นเป็นวิธีที่ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
Step 3. ค่อยทำไรกำไรเป็นกอบเป็นกำ
- เมื่อเราฝึกท่าถนัดจนชำนาญมากๆ เราจะมีความมั่นใจขึ้นมากๆๆๆๆ ทีนี้เราจะใช้ leverage ที่เขาให้จนคุ้ม จนทำกำไรได้พอสมควร
ใจความ Step 3 คือ ลงลึกในวิธีการที่เราถนัด จับจังหวะในวิธีนั้นๆ ว่าเวลาไหนควรใส่หนัก เวลาไหนใส่เบา เราจะพบว่าแม้จะวิธีเดียวกันนี้ในบางช่วงเวลาของตลาดควรกอบโกย บางช่วงควรลดน้ำหนัก เช่น เราเห็น pattern ขาขึ้นของหุ้นนั้นๆ แต่ ทั้งตลาดเป็นขาลงทั้งหมดเราก็ควรใส่น้อยๆ ในทางกลับกันหากเห็น pattern ขาลงของหุ้น เราก็ควรใส่เต็มข้อ
การเริ่มทำตั้งแต่ Step 1 นี้สำคัญมากๆ เพราะ เวลาเราเข้ามาในตลาด คนส่วนมาก เรามองดูผลตอบแทน คนนู้น คนนี้ แล้วหวังจะกำไรมากมาย แล้วเราก็ข้ามขั้นมุ่งทำแต่ Step 3 จนเจ็บหนักเสียหาย บางคนพ่ายแพ้ออกจากตลาดไป
ลองสำรวจตัวเองดูนะครับ ว่าตอนนี้เราอยู่ใน step ไหน หากบางคนวางมือมานาน เริ่มนับ Step 1 ใหญ่ ค่อยๆไป
การเทรด การลงทุน ผมมองว่ามันเป็นทักษะ โดยเฉพาะทักษะทางความคิด หาใช่เป็นเพราะโชคช่วย หากคิดว่าเป็นเพราะโชค เมื่อภาพรวมมันเปลี่ยนเทรนไป เราจะอยู่ในตลาดไม่ได้ เราต้องมองระยะยาว ยาวมากๆ และ Focus ที่ทักษะ
เป็นกำลังใจให้ครับ ผมก็กำลังฝึกฝนอยู่เช่นกัน สู้ๆ ครับ
บทความนี้จัดทำเลยเผยแพร่ครั้งแรกทางเพจ About Traders