🤑 ราคาไม่ได้ถูกมากไปกว่านี้แล้ว รับเลยส่วนลด Black Friday 60% ก่อนที่จะหมดเขต….รับส่วนลด

ว่ากันว่า การดู GDP เปรียบเหมือนส่องกระจกมองหลัง

เผยแพร่ 20/08/2563 11:46

ว่ากันว่า การดู GDP เปรียบเหมือนส่องกระจกมองหลัง
เพราะตัวเลขที่เราเห็นคือ ผลลัพธ์ของเดือน 4,5,6
ขณะที่ตอนนี้เราอยู่กลางเดือน 8 หรือผ่านไตรมาส 3 มาครึ่งทางแล้ว

แต่อย่างน้อย การที่เรามองกระจกหลัง ก็พอจะทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า เส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ถ้าถนนที่เราขับผ่านมันดูขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ สองข้างทางดูเงียบๆ ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่ เราก็พอจะเดาได้ว่า ข้างหน้าอาจจะไม่สดใสนัก ยังต้องขับรถระมัดระวังอยู่

แต่ถ้าถนนเส้นนี้ดูร่มรื่น ต้นไม้เขียวชอุ่ม ถนนราบเรียบ แลดูสะอาดตา ได้ยินเสียงนกร้องฮัมเพลง เราก็อาจพอเดาได้ว่า เส้นทางข้างหน้าดูสดใส


GDP Q2 ติดลบ 12.2% หนักแค่ไหน ?

เอาไปเทียบกับ ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง -12.5% ก็ต้องบอกว่าหนักมาก

จากสมการ C+I+G+X-M ทุกเครื่องจักรติดลบหมด ยกเว้นการลงทุนและอุปโภคของภาครัฐบาล
การลงทุนภาครัฐบาล +12.5%
การอุปโภคภาครัฐบาล +1.4%

แต่ว่าตัว G มีสัดส่วนแค่ประมาณ 20% ของ GDP ซึ่งไม่พอที่จะดึงภาพรวมขึ้นมาได้

ตัว C หรือการบริโภคภาคเอกชนมีสัดส่วน 57% ของ GDP ติดลบ 6.6%
>> รถยนต์ อาหาร เสื้อผ้า เครื่องดื่ม ลดลงหมด (แอลกอฮอล์ลดหนักเพราะมีช่วงห้ามขาย ปริมาณขายเบียร์ -41%)
>> มีแค่ค่าน้ำไฟที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปริมาณการใช้ไฟภาคครัวเรือน +11% เพราะทำงานที่บ้าน Work From Home กันเยอะช่วงปิดเมือง

ตัว X หรือการส่งออก (รวมท่องเที่ยว) มีสัดส่วน 50% ของ GDP มูลค่าติดลบ 17.8%
>> นักท่องเที่ยวมาไม่ได้ อัตราการเข้าพักโรงแรมหายเกือบหมด
>> สินค้าส่งออกลดลงทั้งข้าว ยาง น้ำตาล รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังมีที่เพิ่มได้คือ ปลากระป๋อง ผลไม้ อาหารสัตว์

ส่งออกไม่ดี ใช่ว่า นำเข้าจะดี ตัว M ก็ติดลบทางด้านมูลค่าไป 23.4% ทั้งนำเข้าน้ำมันลดลง วัตถุดิบ เครื่องจักรลดลง
ผลที่ตามมากคือ การลงทุนตัง I ก็ติดลบเช่นกัน โดยการลงทุนภาคเอกชน -15% และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่แค่ 53% เท่านั้นเอง

นี่คือภาพของกระจกหลังที่เราเห็นในเดือน 4-6
แล้วถ้ามองกระจกหน้าไปไกลๆ เราพอจะเห็นอะไรลางๆ บ้าง สิ่งที่ผมเห็น คือ

1.ภาพรวมน่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 แต่คงไม่ได้กระโดดกลับมาเป็นบวก ถ้าย้อนไปดูต้มยำกุ้ง จาก -12.2% มาเป็น -9.9%, -2.5% แล้วถึงจะมาเป็นบวกอ่อนๆ ในอีกไตรมาสถัดไป แปลว่า Q3’20 GDP ก็น่าจะติดลบ และยิ่ง

2.การบริโภค ที่เป็นหัวใจหลัก ก็ดูจะยังไม่กลับมาเท่าไหร่นัก ยอดขายรถยนต์ยังดูไม่ดี อาจเห็นการฟื้นอ่อนๆ บ้าง (เห็นเค้าว่ารถมือสองบางที่ขายดี) การบริโภคของกินของใช้ เห็นมีขึ้นจากการอั้น หรือ pent up demand แต่ก็ดูแผ่วลงไป และตัวเลขที่สำคัญคือ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนต่อ GDP เท่ากับ 80.1% สูงสุดในรอบ 4 ปี ก็จะทำให้เกิดความระมัดระวังในการใช้จ่ายกันพอสมควร

3. การส่งออก เหมือนจะดีขึ้นในประเทศสหรัฐและจีน แต่ว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่คิดเป็นประมาณซัก 10% ของ GDP ยังไม่มีการเดินทางมากัน ก็คงเป็นตัวฉุดลงมา

4.การนำเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบ ลดลง และกำลังการผลิตเกินครึ่งมานิดเดียว ก็คงคาดหวังตัว I มาช่วยคงไม่ไหว

5.แปลว่าหัวใจอยู่ที่ ตัว G ที่จะต้องลงทุน ให้เกิดการจ้างงาน ให้คนมีรายได้ ให้เกิดการบริโภค รวมถึงนโยบายต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งเรื่องของการส่งออก หรือการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจหมุนไปได้ และค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมในที่สุด

สิ่งที่ผมเล่าให้ฟัง คือ เรื่องของ GDP ซึ่งดูไม่สดใส แม้อาจจะพอบอกได้ว่า เราน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในกรณีที่ไม่มีการระบาดรอบสอง หรือต้องปิดเมืองอีก

แต่ถ้าเป็นเรื่องของการลงทุนนั้น อย่ายึดติดกับตัวเลขที่ติดลบว่าแย่แน่

ขอให้มอง GDP ด้วยความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และคาดการณ์ให้ได้ว่าจะมีปัจจัยอะไรเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นวัคซีน ปริมาณเงินในระบบ การลงทุนภาครัฐ การประมูลงาน NPL

จะมีหุ้นกลุ่มไหนที่คาดว่าจะฟื้นกลับขึ้นมาได้ และได้ประโยชน์ระหว่างทางบ้าง
และถ้าคุณหาเจอแล้วว่าหุ้นตัวไหนน่าสนใจ กระซิบบอกผมด้วยครับ

#GDP #วิตามินหุ้น

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins-วิตามินหุ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย