-
-
การฟื้นตัวสะดุดช่วง 1H64 หวังวัคซีนหนุนการฟื้นตัวใน 2H64 | • คาด 1Q64 รายงานขาดทุนที่ 509 ล้านบาท ขาดทุนสูงขึ้นจาก 4Q63 ที่ 474 ล้านบาท (ขาดทุนปกติใน 4Q63 ที่ 368 ล้านบาท) และจากขาดทุน 103 ล้านบาทใน 1Q63
-
การฟื้นตัวสะดุดในช่วงเดือนม.ค. 2564 และสะดุดอีกครั้งในช่วงวันหยุดยาวเดือนเม.ย. 2564 แต่ยังคงมีหวังจากการฉีดวัคซีนที่หากภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทจะส่งผลให้การ ท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
-
เราคาดว่าปี 2564 ERW ยังคงมีผลประกอบการขาดทุนที่ 586 ล้านบาท และรายได้คาด ว่าจะสามารถฟื้นตัวดีขึ้นที่ 4.2 พันล้านบาท ปรับคําแนะนําลงจาก “Trading” เป็น “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 4.35 บาท (ราคาหลังเพิ่มทุน 2.50 บาท)
1Q64 Earnings Preview
• คาด ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (BK:ERW)รายงานขาดทุนสุทธิใน 1Q64 ที่ 509 ล้านบาท ขาดทุนสูงขึ้นจาก 4G63 ที่ 474 ล้านบาท
(ขาดทุนปกติใน 4G63 ที่ 368 ล้านบาท) และจากขาดทุน 103 ล้านบาทใน 1Q53 โดยที่ใน 1064 ได้รับผลกระทบจากการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19 ที่ต่อเนื่องมาจะจนถึงช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ส่งผลให้อัตราเข้าพักในเดือนม.ค. 2554 อยู่ที่ระดับ 10%
• คาดรายได้จากกลุ่มโรงแรมที่ 394 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 30% QoQ และ 66% YoY โดยที่คาดว่า RevPar (ไม่นับรวม Hop Inn) จะปรับตัวลดลง 80% YoY จากอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 25%% และ ADR คาดว่าจะปรับตัวลดลง 45% YoY ในขณะที่ RevPar ของกลุ่ม Hop Inn คาดว่าติดลบ 30% YoY (จากที่ปรับตัวลดลงเพียง 8% YoY ในช่วง 4G63) ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ํากว่าโรงแรมอื่น ๆ และมี อัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50% โดยที่ในช่วงเดือนก.พ. และ มี.ค. 2564 มีอัตราเข้าพักที่ 50% และ 60% สูงกว่าเดือนม.ค. 2561 ที่ 30%
• คาดการณ์ขาดทุน 509 ล้านบาทเป็นการคาดการณ์ขาดทุนจากการดาเนินงานปกติ ยังไม่ได้นับรวมรายการพิเศษที่คาดว่า ERW จะมีการบันทึกด้อยค่าที่เกิดจากผลกระทบของ CovID-19 ซึ่งจะเป็นการบันทึกที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
การฟื้นตัวสะดุดในช่วง 2064
เราคาดว่าปี 2564 ERW ยังคงมีผลประกอบการขาดทุนที่ 586 ล้านบาท และรายได้คาดว่าจะสามารถ ฟื้นตัวดีขึ้นที่ 4.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวคาดว่าจะสะดุดในช่วง 2064 ที่เป็นช่วงวันหยุดยาว แต่มีการระบาดรอบ 3 ของ covID-19 ที่รุนแรงกว่ารอบ 1 และ 2 ส่งผลให้คาดว่าใน 2064 อาจมีผล การดําเนินวานที่ขาดทุนสูงกว่าใน 1Q64 อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 สามารถทําไปได้ แล้วที่กว่า 1.1 ล้านราย เราเชื่อว่าหากการฉีดวัคซีนสามารถทําได้ในอัตราที่เร็วขึ้น จะส่งผลให้การ ท่องเที่ยวในช่วง 2H64 สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และในปี 2564 ERW จะเน้นการเปิดตัวโรงแรม กลุ่ม Hop Inn ในประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ต่ํากว่ากลุ่ม โรงแรมอื่นๆ จากกว่า 90% ของลูกค้าเป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศ และ ERW ตั้งเป้าที่จะเปิด Hop Inn ให้ ครบ 100 แห่งภายในปี 2558 โดยในปัจจุบันมี Hop Inn ที่เปิดให้บริการแล้ว 44 แห่งทั่วประเทศ ปรับคําแนะนําลงเป็น “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 4.35 บาท (ราคาหลังเพิ่มทุน 2.50 บาท) เราปรับคําแนะนําลงจาก “Trading” เป็น “ถือ” หลังจากที่การระบาด COVID-19 รอบ 3 ในประเทศคาด ว่าจะกดดันผลประกอบการ 1H64 อย่างไรก็ดี การเริ่มฉีด Vaccine ในประเทศจะเริ่มส่งผลบวกต่อกลุ่ม ท่องเที่ยว จึงยังคงราคาเป้าหมายปี 2554 ที่ 4.35 บาท (ราคาหลังเพิ่มทุน 2.50 บาท) จากการอง P/BV ที่ 3.3% โดยเราคาดว่าปี 2554 ยังคงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก
ประกาศเพิ่มทุน 2.37 พันล้านบาท
ERW ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากทุนจดทะเบียนจํานวน 2.51 พันล้านบาท เป็น 4.89 พันล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจํานวนไม่เกิน 2.37 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อ เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights offering) จํานวน 2.01 พันล้านหุ้น ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 1.25 หุ้น ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่ราคา เสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท (XR วันที่ 11 พ.ค. 2564) และรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสําคัญ แสดงสิทธิที่ ERW-W3 (XW วันที่ 11 พ.ค. 2564) ซึ่งจะออกให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จํานวนไม่เกิน 359.64 ล้าน หน่วย ที่อัตราการจัดสรร 7 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิ โดยใบสําคัญแสดงสิทธิ ดังกล่าวมีอายุไม่เกิน 3 ปีและมีราคาใช้สิทธิที่ 3 บาท
การประกาศเพิ่มทุนในครั้งนี้ คาดว่า ERW จะสามารถเพิ่มเงินสดในมือได้ราว 3.0 พันล้านบาท และจะ ส่งผลให้ระดับ D/E จากเดิมที่อยู่ที่ระดับ 3.2X จะสามารถปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.7X-2.0X และคาด ว่าเงินสดที่ได้มา ERW จะนํามาลงทุน Hop Inn ในประเทศ และที่ฟิลิปปินส์เพิ่ม
ปัจจัยเสี่ยง
• ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศอาจส่งผลให้การท่องเที่ยวหดตัว
• ความยืดเยื้อของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก และความล่าช้าของการพัฒนา Vaccine
• เศรษฐกิจโลกมีโอกาสเข้าสู่ Recession
• การใช้เงินอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค
• เงินบาทแข็งค่ากว่าภูมิภาค
• Dilution Efect จากการเพิ่มทุน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
-