Earning Results
► (BK:SAWAD) รายงานกำไรสุทธิช่วง 1Q63 จำนวน 1,033 ลบ. โต 22.5%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย หลังมีแรงหนุนจากทั้ง
1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มขึ้น 27.2%YoY หลังสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อรวมได้ราว 34.9%YoY ซึ่งพอร์ตลูกหนี้รวมเพิ่มขึ้นมากส่วนหนึ่งเกิดจาก การรวมลูกหนี้ในธุรกิจบริหารสินทรัพย์เข้ามาทั้งจำนวนตามมาตรฐานบัญชีใหม่ บวกกับสินเชื่อเงินกู้ยืมที่ขยายตัวได้ดีในช่วงที่ ศก. เริ่มชะลอตัว ทำให้ความต้องการใช้เงินด่วนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีNIM อ่อนตัวลงเหลือ 18.8% จาก 19.6% ในช่วง 1Q62 หลังบันทึกดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าเพิ่มเข้ามาตาม TFRS9 และ Asset Yield ที่อ่อนตัวลงหลังเริ่มให้ ความช่วยเหลือกับลูกหนี้บางส่วนที่ได้รับผลกระทบทาง ศก.
2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโต 42.8%YoY หนุนด้วยรายได้จากการทำธุรกิจนายหน้าขายประกันภัยร่วมกับพันธมิตร และ
3) ความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สะท้อนได้จาก Cost to Income Ratio ที่ลดลงเหลือเพียง 38.9% จาก 41.5% ในช่วง 1Q62
► ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ในไตรมาสนี้ SAWAD มี NPL Ratio สูงขึ้นจาก 4.50% ในช่วง 1Q62 เป็น 4.99% เนื่องจากมาตรฐานบัญชี TFRS9 ทำให้การตัดหนี้สูญที่ทำได้ช้าลง แต่หากพิจารณาภายใต้มาตรฐานบัญชีเดิม พบว่า NPL Ratio ของบริษัทจะอยู่ที่ 3.82% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วง 4Q62 ที่ 3.83% ส่วน Coverage Ratio ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 72.55% หลังมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามแบบจำลอง ECL Model ของ TFRS9 ทำให้ในภาพรวมเรายังไม่กังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัท
Our Take
► กำไรช่วง 1Q63 คิดเป็น 24.1% ของประมาณการทั้งปี โดยเรามองว่าการตั้งสำรองตั้งแต่ช่วง 2Q63 จะน้อยลง เพราะมีการเร่งสำรองไปแล้วในช่วง 1Q63 (หากผลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่กลับมารุนแรงอีกครั้ง) บวกกับมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ให้กับกลุ่มเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ และกลุ่ม ชับบ์สามัคคีประกันภัย ทั้งนี้บริษัทอาจมีความเสี่ยงจากอัตราโตของพอร์ตสินเชื่อที่จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วง 1Q63 เนื่องจากการลดกิจกรรมทางการตลาด บวกกับ SAWAD ได้เพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อกับลูกค้า โดยการลด LTV ลงในสินเชื่อหลายประเภท แต่คาดความเสี่ยงดังกล่าวคาดถูกบรรเทาลง ด้วยปัจจัยบวกจากมาตรการให้สินเชื่อ Soft Loanของแบงก์ชาติ(สูงสุดรายละ 5,000 ลบ.) ทำให้เรายังคงคาด SAWAD จะมีกำไรสุทธิในปี 2563 จำนวน 4,290 ลบ. โต 14.2%YoY ตามประมาณการเดิม
► เรามองว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลัง SAWAD ไม่ได้มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมากนักหลังใช้ TFRS9(เดิมตลาดมีความกังวลจากการตั้งสำรองที่อาจเร่งตัวขึ้นมากเพราะ SAWAD มี Coverage Ratio ค่อนข้างต่ำ) อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 15.2% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมที่ 62.5 บาท (วิธี GGM) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities