สรุป เช้าวันศุกร์ราคาทองคําพุ่งขึ้นทําระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าบริเวณ 1,821.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ระดับต่ําสุดของวันทําไว้เพียงบริเวณ 1,812.70 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่หนุนทองคํา จากคาดการณ์เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น โดย 10 year breakeven inflation ขึ้นสู่ระดับสูงสุดรอบ 8 ปี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ สหรัฐทั้งการเงิน และการคลังที่ปธน.เตรียมเจรจากับสมาชิกสภาคองเกรสอีกวงเงินราว 4 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลง ยิ่งกดดันให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ติดลบหนักขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญที่หนุนราคาทองคํา นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผย
ทองคํา ประกอบกับมีแรงซื้อทางเทคนิคหลังจากราคาทองคําทะลุผ่านแนวต้านสําคัญโซนบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นมาได้ สําหรับวันนี้แนะนําติดตามการเปิดเผย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคํามีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ผันผวนได้ ด้านปัจจัยทางเทคนิค ประเมินว่า ระหว่างวันหากราคาทองคําไม่หลุด 1,805-1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้จะทําให้มุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น โดยหากยืนซื้อเมื่อราคาทองคําอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,805-1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทํากําไรหากราคาทองคําไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ
คําแนะนํา เข้าซื้อจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาใกล้โซน 1,805-1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ราคาทองคําไม่สามารถยืน 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคําออกขายเพื่อทํากําไร บางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th